TECHNOLOGY

SFCL ระบบจำกัดกระแสลัดวงจรชนิดตัวนำยิ่งยวด เทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยปกป้องโครงข่ายไฟฟ้า
POSTED ON 09/02/2561


Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics

 

 

ASG Superconductors บริษัทชั้นนำด้านแม่เหล็กตัวนำยิ่งยวด ได้ออกแบบและสาธิตการทำงานเต็มรูปแบบของอุปกรณ์จำกัดกระแสลัดวงจรชนิดตัวนำยิ่งยวด (SFCL) ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ อุปกรณ์แรงดันไฟฟ้า 36 kV รุ่นนี้ผ่านการทดสอบเฉพาะแบบ (Type Tested) ในห้องปฏิบัติการอิสระของ IPH ในเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นการทดสอบในสภาวะลัดวงจรที่มีความรุนแรงกว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับระบบไฟฟ้าจริง

 

ระบบ SFCL ใช้ลวดนำยิ่งยวดแบบใหม่ภายใน Magnesium Diboride (MgB2) โดยเป็นระบบเหนี่ยวนำซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวต้านทานชนิดหมุน อุปกรณ์ดังกล่าวจะอยู่ในภาวะล่องหนสำหรับโครงข่ายในสภาวะการทำงานจริง จึงช่วยหลีกเลี่ยงการกระจายหรือการรบกวนต่าง ๆ แต่ขณะเดียวกันก็สามารถแปลงตัวเองได้โดยทันทีและโดยอัตโนมัติไปเป็นค่าต้านทานที่สูงมาก (อาทิ ความสามารถในการจำกัดกระแสฟอลต์) เมื่อเกิดไฟฟ้าลัดวงจร

 

ระบบนี้สามารถทำงานในสภาวะที่ไม่มีของเหลวเย็นยิ่งยวด ซึ่งมีความจำเป็นอย่างมากสำหรับระบบแบบเดิม ๆ ระบบนี้ยังช่วยลดงานซ่อมบำรุง นอกจากนี้ การใช้ลวดนำไฟฟ้ายิ่งยวดภายใน MgB2 ยังช่วยทำให้ระบบมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย เมื่อเทียบกับระบบดั้งเดิมที่เทียบเท่ากัน เนื่องด้วยการใช้ไฟที่ลดลง

 

เทคโนโลยีตัวนำยิ่งยวดช่วยให้อุปกรณ์ SFCL ทำงานเสถียร แม้หลังจากที่เกิดไฟฟ้าลัดวงจรในโครงข่าย โดยใช้เวลาในการกลับสู่ภาวะปกติเพียงมิลลิวินาที ซึ่งนี่เองเป็นจุดเด่นที่ทำให้อุปกรณ์รุ่นนี้แตกต่างออกไปจากโซลูชั่นอื่น ๆ ในตลาด และช่วยให้สาธารณูโภคมีพัฒนาการที่ดีอย่างมีนัยสำคัญในแง่ของความต่อเนื่องของการจ่ายไฟฟ้า ทั้งยังช่วยลดต้นทุนในการบูรณะซ่อมแซมส่วนประกอบในเครือข่ายที่ได้รับความเสียหายจากไฟฟ้าลัดวงจร

 

ทั้งนี้ ผลการศึกษาด้านต้นทุนความเป็นเจ้าของโดยรวมยืนยันว่า ในหลายกรณีนั้น ระบบ SFCL เป็นตัวเลือกที่มีความคุ้มค่าสูงสุดในการแก้ปัญหาเกี่ยวกับกระแสไฟฟ้าลัดวงจรในโครงข่ายไฟฟ้าแรงดันปานกลางและแรงดันสูง

 

เทคโนโลยีเหนี่ยวนำดังกล่าวช่วยให้ค่าแรงดันในสภาวะทำงานของอุปกรณ์ SFCL สูงขึ้นได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงหลักการทำงานแต่อย่างใด โดยนอกจากระบบ 36 vK แล้ว ASG ยังได้ออกแบบระบบ 123 kV ที่เหมาะสำหรับการทำงานในโครงข่ายส่งไฟฟ้าในระบบวิกฤตของประเทศยุโรปส่วนใหญ่อีกด้วย