TECHNOLOGY

Intelligent Hybrids สารทดแทนฟลูออโรคาร์บอน C8 นวัตกรรมเคลือบผ้าประสิทธิภาพสูง
POSTED ON 09/02/2561


Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics

 

 

นาโน-แคร์ ดอยช์แลนด์ เอจี (Nano-Care Deutschland AG) บริษัทผู้พัฒนานวัตกรรมเคลือบสิ่งทอ ในเมืองซาร์เวลลิงเงน ประเทศเยอรมนี เตรียมนำระบบเคลือบสิ่งทอให้มีคุณสมบัติสะท้อนน้ำและน้ำมันมาใช้ ทดแทนการใช้สารฟลูออโรคาร์บอน C8 โดยมีเป้าหมายเพื่อปฏิวัติวงการตกแต่งสิ่งทอ

 

นายโอลิเวอร์ ซอนแทก ผู้อำนวยการของนาโน-แคร์ กล่าวว่า การที่สารฟลูออโรคาร์บอน C8 ถูกห้ามใช้ เนื่องจากเป็นสาเหตุของการเกิดก๊าซเรือนกระจก PFOS และ PFOA นั้น ได้ก่อให้เกิดช่องว่างในตลาดอย่างมาก ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่สำหรับเราคือการคงไว้ซึ่งมาตรฐานการสะท้อนน้ำมันในระดับสูง ควบคู่ไปกับการกำจัดห่วงโซ่สารฟลูออรีนให้หมดไป

 

“เราได้แก้ปัญหานี้ด้วยการพัฒนาสารซิลิคอนไดออกไซด์สูตรพิเศษ ได้แก่ Nanoflex F-Bond ซึ่งวางตลาดภายใต้แบรนด์ INTELLIGENT HYBRIDS สารทดแทนดังกล่าวนี้มีฐานมาจากสารเหลวเข้มข้น และถูกนำไปใช้ในกระบวนการจุ่มเคลือบทั่วไปในอุตสาหกรรม” นายซอนแทก กล่าว

 

ตลอดหลายปีที่ผ่านมาได้มีกระแสกดดันเพิ่มมากขึ้นให้มีการคิดค้นนวัตกรรมใหม่สำหรับการตกแต่งสิ่งทอที่สอดคล้องกับกฎระเบียบอันเข้มงวดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และนาโน-แคร์ ดอยช์แลนด์ เอจี ซึ่งแยกตัวออกมาจาก Leibniz Institute for New Materials (INM) มองเห็นโอกาสในตลาดมูลค่าหลายร้อยล้านยูโรนี้

 

นายซอนแทก กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับธุรกิจที่เราให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ได้แก่ ชุดทหาร ชุดทำงาน และบริการสุขภาพ ซึ่งต้องการผลิตภัณฑ์ประสิทธิภาพสูง และยังอนุญาตให้ใช้เทคโนโลยี C8 ได้ชั่วคราวในขณะนี้ การขจัดเทคโนโลยีนี้ออกไป โดยเฉพาะนอกสหภาพยุโรป จึงเป็นก้าวสำคัญในการบรรลุซึ่งความยั่งยืนทางระบบนิเวศในอุตสาหกรรมสิ่งทอ”

 

นาโน-แคร์ ดอยช์แลนด์ เอจี เริ่มพัฒนานวัตกรรมเคลือบสิ่งทอและพื้นผิวอื่น ๆ มาตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ ในปี 2543 และในโอกาสปรับโครงสร้างองค์กรในต้นปี 2561 นี้ จึงได้มีการจัดตั้งแผนกใหม่อย่าง Textile Effects ขึ้น เพื่อดูแลด้านการพัฒนาความชำนาญพิเศษในภาคสิ่งทอ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเป็นพันธมิตรกับลูกค้าในรูปแบบ private label ไม่ว่าจะผู้ผลิตสารเคลือบผิว ผู้จำหน่ายเคมีภัณฑ์ หรือผู้ใช้เทคโนโลยีตกแต่งผิวขั้นสูง ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ และผู้บริโภคในมากกว่า 65 ประเทศได้ประโยชน์จากคุณสมบัติอเนกประสงค์ของผลิตภัณฑ์ของลูกค้าเหล่านี้