TECHNOLOGY

เครื่องทำความเย็นแบบหอยโข่งรุ่นใหม่ของไฮเออร์ ทำความเย็นได้มากที่สุดในโลก
POSTED ON 19/04/2560


Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics

 

 

เมื่อวันที่ 12 เม.ย.2560 ที่ผ่านมา ในงานมหกรรม China Refrigeration Exhibition ครั้งที่ 28 ที่จัดขึ้น ณ ศูนย์จัดแสดง Shanghai New International Expo Center ไฮเออร์ เซ็นทรัล แอร์ คอนดิชันนิ่ง หรือ Haier CAC ธุรกิจในเครือไฮเออร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (Haier Group Corporation) ได้เปิดตัวเครื่องทำความเย็นแบบหอยโข่ง (centrifugal) ระบบแบริ่งแม่เหล็ก (magnetic bearing) เป็นครั้งแรก พร้อมศักยภาพทำความเย็นมากที่สุดในโลกที่ 4200RT

 

เครื่องทำความเย็น 1 ยูนิต ทำความเย็นครอบคลุมพื้นที่ได้มากถึง 100,000 ตารางเมตร ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีเครื่องทำความเย็นรุ่นอื่นที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่า ขณะที่ค่า Integrated Part Load Value (IPLV) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพการทำความเย็นเมื่อทำงานเต็มกำลังนั้นอยู่ที่ 13.18

 

เครื่องทำความเย็นรุ่นใหม่นี้ผสานเทคโนโลยีเพลาลอยด้วยแรงแม่เหล็ก เพื่อยกระดับการทำความเย็นขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งแตกต่างจากระบบปรับอากาศส่วนกลางทั่วไป เนื่องจากไม่ใช้น้ำมันหล่อลื่นและไม่มีการเสียดสี ส่งผลให้ใช้พลังงานลดลง 50% และมีการอายุการใช้งานนานถึง 30 ปี ซึ่งมากกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับเครื่องทำความเย็นทั่วไป

 

ด้วยความก้าวหน้าเหล่านี้ เครื่องทำความเย็นแบบหอยโข่งระบบแบริ่งแม่เหล็ก จึงกลายเป็นนวัตกรรมแถวหน้าที่จะเข้ามากำหนดทิศทางการพัฒนาในแวดวงระบบปรับอากาศส่วนกลางต่อไป

 

ทั้งนี้ เมื่อช่วงต้นปี 2549 ที่ผ่านมา ไฮเออร์ได้กลายเป็นผู้บุกเบิกในอุตสาหกรรมเครื่องทำความเย็นแบบหอยโข่งระบบแบริ่งแม่เหล็กของจีน จากนั้นในปี 2558 ก็ได้เปิดตัวเครื่องทำความเย็นรุ่นแรกด้วยประสิทธิภาพทำความเย็นที่ 2200RT ซึ่งเป็นศักยภาพทำความเย็นสูงสุดในขณะนั้น สำหรับเครื่องทำความเย็นระดับ 4200RT ที่เพิ่งเปิดตัวนี้ ขึ้นแท่นนวัตกรรมที่ทำสถิติใหม่ของโลก

 

ในแง่ของเทคโนโลยีอัจฉริยะ เครื่องทำความเย็นรุ่นใหม่มาพร้อมกับระบบแม่เหล็กที่ทำความสะอาดได้ในตัวและทำงานแบบไร้ผู้ควบคุม (Driverless) ระบบดังกล่าวทำงานอย่างอัตโนมัติเต็มรูปแบบ โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยการแทรกแซงของมนุษย์ ในการบำรุงรักษาและซ่อมแซมตลอดวงจรชีวิตของเครื่อง ทั้งยังใช้พลังงานลดลงถึงครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับเครื่องทำความเย็นทั่วไปด้วย

 

เครื่องทำความเย็นรุ่นใหม่นี้ถือเป็นตัวแรกในอุตสาหกรรมที่ผนวกรวมเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เข้ากับอุปกรณ์ระดับอุตสาหกรรมใหญ่ ส่งผลให้สามารถใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีได้อย่างสมบูรณ์แบบ ในแง่ของการเชื่อมต่อถึงกันระหว่างมนุษย์กับเครื่องจักร และระหว่างเครื่องจักรกับเครื่องจักร

 

ทั้งนี้ ไฮเออร์ ซีเอซี ได้สร้างโรงงานแห่งแรกของโลกที่มีเป้าหมายเพื่อผลิตระบบปรับอากาศส่วนกลางแบบมุ่งเน้นผู้ใช้งาน ซึ่งใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อระหว่างกัน พร้อมผสานเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน ปัญญาประดิษฐ์ และกลยุทธ์การผลิตแบบตามสั่งจำนวนมาก (mass customization) อันเป็นกลยุทธ์ที่ต่อยอดมาจากการผลิตจำนวนมาก (mass production) และเร่งการดำเนินการตามแผนริเริ่มของรัฐบาลจีนอย่าง China Manufacturing 2025 ที่มีเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนให้อุตสาหกรรมชั้นแนวหน้าของประเทศสามารถพึ่งพาตนเองได้

 

สำหรับตลาดจีน นับจนถึงวันนี้ไฮเออร์ได้สร้างและติดตั้งเครื่องทำความเย็นแบบหอยโข่งระบบแบริ่งแม่เหล็กไปแล้ว 539 เครื่อง ซึ่งแม้ว่าการติดตั้งที่ผ่านมานี้ยังคงถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนำร่องในอุตสาหกรรมเกิดใหม่ แต่ไฮเออร์สามารถคว้าส่วนแบ่งตลาดได้ถึง 81% ขึ้นแท่นผู้นำเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน

 

ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า เครื่องทำความเย็นระดับ 4200RT รุ่นใหม่ของไฮเออร์ ไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าในเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพลาลอยด้วยแรงแม่เหล็กเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทในการลดการใช้และปล่อยพลังงาน พร้อมทำหน้าที่เสมือนกระดูกสันหลังในการพลิกโฉมอุตสาหกรรมอาคารประหยัดพลังงานด้วยเช่นกัน