RECOMMENDED PRODUCTS

แท่นขุดเจาะรุ่นใหม่ของ SANY สามารถทำงานได้ต่อเนื่อง 24 ชั่วโมงในอุณหภูมิ -50 องศาเซลเซียส
POSTED ON 10/03/2560


Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics

 

 

SANY Heavy Machinery บริษัทย่อยของ SANY Heavy Industry ได้เปิดตัวแท่นขุดเจาะแบบหมุนตระกูล C10 ซึ่งประกอบด้วย แท่นขุดเจาะขนาดกลางและเล็ก รุ่น SR155C10, SR205C10, SR235C10, 265C10 สำหรับงานก่อสร้างทั่วไป แท่นขุดเจาะรุ่น SR285RC10, SR360RC10 และ SR365RC10 สำหรับงานขุดเจาะหิน และแท่นขุดเจาะแบบหมุนขนาดใหญ่รุ่น SR405RC10 และแท่นขุดเจาะแบบหมุนชนิดลูกสูบ (full stroke rotary drilling rig) รุ่น SR235W10 และ SR285RW10 ที่มาพร้อมกับสมรรถนะในการปฏิบัติงานที่มีความครอบคลุม

 

แท่นขุดเจาะแบบหมุนตระกูล C10 ได้รับการปรับปรุงและดัดแปลงให้มีสมรรถนะดีขึ้น ด้วยเสาเข็มที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางกว้างขึ้นและมีความยาวมากขึ้น เครื่องยนต์แรงขึ้น และเครื่องกว้านหลักที่ทำงานเร็วขึ้น โดยแท่นขุดเจาะแบบหมุนที่ได้รับการพัฒนาสู่ยุคที่ 5 นี้ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ควบคุมหลายระดับ ซึ่งได้รับการปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขุดเจาะให้ดียิ่งขึ้น สำหรับจุดเด่นอื่นๆของแท่นขุดเจาะตระกูล C10 ได้แก่ การออกแบบเครื่องกว้านใหม่ การใช้เชื่อเพลิงต่ำ และมีการใช้เครื่องยนต์จาก Isuzu หรือ Cummins ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมโครงรถที่ออกแบบมาอย่างมีเอกลักษณ์ ซึ่งทั้งหมดนี้เราคำนึงถึงประสิทธิภาพและความเสถียรในการใช้งาน

 

นอกจากนี้ ห้องคนขับยังมีพื้นที่กว้างขวางและมีหลังคาที่เปิด-ปิดได้ (panaramic sunroof) ซึ่งเพิ่มความสะดวกสบายในการปฏิบัติงาน อีกทั้งยังช่วยให้คนขับสามารถมองเห็นได้กว้างขึ้น ขณะที่ Kelly bar และระบบหล่อลื่นของ SANY ก็มีความทนทานมากขึ้น เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องขุดเจาะ

 

แท่นขุดเจาะแบบหมุนรุ่นใหม่นี้ยังสามารถปฏิบัติงานได้แม้จะอยู่ในเขตอาร์กติกที่มีสภาพอากาศหนาวจัด (อุณหภูมิต่ำถึง -50 องศาเซลเซียส) และสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมงภายใต้สภาพแวดล้อมดังกล่าว โดยที่ไม่เกิดปัญหาขัดข้องใด ๆ อีกด้วย

 

SANY Group มีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศจีน โดยมีโรงงานอยู่ในสหรัฐฯ เยอรมนี บราซิล และอินเดีย บริษัทฯมีธุรกิจอยู่ในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก