MOVEMENT NEWS

กสอ. เตรียมงบ 150 ลบ. ฟื้นฟูอุตสาหกรรมไทย ครอบคลุม SMEs-ชุมชน-เกษตร-คนตกงาน
POSTED ON 21/05/2563


 

 

นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เปิดเผยว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม สั่งการให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เร่งมาตรการฟื้นฟูอุตสาหกรรมไทย ครอบคลุม 4 กลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่ 1. ผู้ประกอบการและบุคลากรภาคอุตสาหกรรม เสริมองค์ความรู้เพื่มขีดความสามารถในการแข่งขัน 2. ชุมชนและวิสาหกิจชุมชน โดยการพัฒนาชุมชน/วิสาหกิจชุมชนในท้องถิ่น เชื่อมโยงเทคโนโลยีกับการท่องเที่ยว 3. เกษตรกร ธุรกิจเกษตร พัฒนาทักษะการบริหารจัดการอุตสาหกรรม และ 4.ประชาชน แรงงาน และบัณฑิตจบใหม่ ด้วยการปรับเพิ่ม สร้างทักษะใหม่ สร้างโอกาสทางอาชีพอิสระ สู่การเป็นผู้ประกอบการ ภายใต้แนวคิดของการส่งเสริมแบบ "ปรับตัวให้ถูกทางอย่างยั่งยืน" ด้วยการผันงบประมาณจากงบปกติกว่า 150 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูผู้ประกอบการอย่างเร่งด่วนให้ดีพร้อม ภายในระยะเวลา 90 วัน

โดยตั้งเป้าฟื้นฟูผู้ประกอบการกว่า 4,000 กิจการ 11 ชุมชน อบรมคนว่างงาน สร้างโอกาสในการประกอบอาชีพกว่า 6,000 คน พร้อมเสริมสร้างทักษะคนตกงาน ว่างงาน ให้สามารถสร้างธุรกิจใหม่ 400 กิจการ เพื่อเป็นหนึ่งปัจจัยในการขับเคลื่อนและกระตุ้น GDP ในกลุ่มอุตสาหกรรม SMEs ของประเทศ

ในส่วนของผู้ประกอบการและบุคลากรภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย ทั้งในด้านการสร้างรายได้ประชาชาติ (GDP) การสร้างการจ้างงาน รวมถึงเป็นกลไกสำคัญของกระบวนการผลิต โดยมุ่งพัฒนาเอสเอ็มอี (SMEs) ให้เกิดการเพิ่มขีดความสามารถ และยกระดับความสามารถในการแข่งขัน รวมทั้งงพัฒนาองค์ความรู้ที่จำเป็นในยุคความปกติแบบใหม่ (New Normal) ผ่านกิจกรรมและโครงการ อาทิ การให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึกแก่เอสเอ็มอี (SMEs) สู้วิกฤติโควิด จากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อบริหารจัดการธุรกิจให้เกิดประโยชน์สูงสุด การจัดทำแผนช่วยขับเคลื่อนองค์กรอย่างมีศักยภาพ ทั้งในภาวะวิกฤตและภาวะปกติ โดยตั้งเป้าฟื้นฟูผู้ประกอบการกว่า 4,000 กิจการ เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 448 ล้านบาท

ในส่วนของชุมชนและวิสาหกิจชุมชน โดยการพัฒนาชุมชน/วิสาหกิจชุมชนในท้องถิ่น ด้วยการเชื่อมโยงเทคโนโลยีกับการท่องเที่ยว ส่งเสริมการใช้เครื่องจักรและนวัตกรรม เพื่อเพิ่มศักยภาพการประกอบการให้แก่ชุมชนท้องถิ่นให้ได้มาตรฐานและมีขีดความสามารถในการแข่งขันผ่านการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวภายใน 1 วัน (1 Day Trip) กระตุ้นการท่องเที่ยวในชุมชน การพัฒนาแพลตฟอร์มโลจิสติกส์และการบริหารคลังสินค้า พัฒนาทักษะให้กับวิสาหกิจชุมชนและหาช่องทางในการประกอบกิจการ ผ่านกิจกรรมจัดทำแผนพัฒนาธุรกิจชุมชน ร่วมกับทีมนักศึกษา เพื่อยกระดับชุมชนให้มีความเข้มแข็ง มีศักยภาพเพิ่มขึ้นและสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน โดยการนำองค์ความรู้ นวัตกรรม ทุนทางวัฒนธรรม มาผนวกกับความคิดสร้างสรรค์ของนักศึกษามาพัฒนาชุมชน ซึ่งคาดว่าจะสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ให้กับวิสาหกิจชุมชนที่ได้รับผลกระทบรุนแรงกว่า 11 ชุมชน ทั่วทุกภูมิภาค เพื่อเพิ่มรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์และการท่องเที่ยว เป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 87 ล้านบาท

สำหรับรายชื่อ 11 ชุมชน ได้แก่ 1.ชุมชนออนใต้ จ.เชียงใหม่ 2.ชุมชนบ้านนาต้นจั่น จ.สุโขทัย 3.ชุมชนบ้านสวนขวัญ จ.ลพบุรี 4.ชุมชนบ้านน้อย จ.เลย 5.ชุมชนบ้านดอนข่า จ.ขอนแก่น 6.ชุมชนบ้านสนวนนอก จ.บุรีรัมย์ 7.ชุมชนบ้านห้องแซง จ.ยโสธร 8.ชุมชนบ้านศาลาดิน จ.นครปฐม 9.ชุมชนบางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา 10.ชุมชนบ้านหน้าทับ จ.นครศรีธรรมราช 11.ชุมชนบ้านทรายขาว จ.ปัตตานี

ในส่วนของเกษตรกรและธุรกิจเกษตร ด้วยการพัฒนาทักษะการบริหารจัดการอุตสาหกรรม (Industrialization) ลดความเสี่ยงในการประกอบอาชีพเชิงเดี่ยว ยกระดับชุมชน และสร้างรายได้ในท้องถิ่น ยกระดับเกษตรกรสู่การเป็นเกษตรอุตสาหกรรม รวมทั้งพัฒนาทักษะการค้าออนไลน์ เพื่อเพิ่มโอกาสทางการค้าและสร้างรายได้ให้กับภาคการเกษตร ผ่านกิจกรรมและโครงการ อาทิ การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ใหม่ด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยีสมัยใหม่ การขยายผลงานวิจัยด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ต่อยอดสู่การผลิตสินค้าที่มีมูลค่าสูงในเชิงพาณิชย์ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตรแปรรูปที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด โดยกำหนดเป้าหมายการพัฒนาธุรกิจเกษตร 100 กิจการ 100 ผลิตภัณฑ์ คาดว่าจะสร้างมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์ลดต้นทุนการผลิตของ SMEs ยอดขายและรายได้เพิ่มขึ้นรวมกว่า 78 ล้านบาท

ประชาชน แรงงาน และบัณฑิตจบใหม่ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการลดอัตราการว่างงาน จากการปิดกิจการ การเลิกจ้าง รวมถึงสร้างโอกาสทางอาชีพให้แก่กลุ่มเป้าหมาย ด้วยการปรับ-เพิ่ม-สร้างทักษะใหม่ (Reskill-Upskill-New Skill) สร้างโอกาสในการประกอบอาชีพอิสระ เพื่อเป็นทางเลือกในการทำธุรกิจ รองรับแรงงานที่อพยพกลับท้องถิ่นและชุมชน ลดปัญหาความแออัดของชุมชนเมืองในระยะยาว ผ่านกิจกรรมและโครงการ อาทิ การจัดทำองค์ความรู้เรื่องรูปแบบธุรกิจชุมชนที่มีศักยภาพในประกอบการ การอบรมออนไลน์ หัวข้อพัฒนาการประกอบการธุรกิจชุมชน

พร้อมกันนี้ กสอ. จะเร่งพัฒนาหลักสูตรออนไลน์ และต้นแบบตัวอย่างการประกอบธุรกิจ เพื่อเสริมศักยภาพในทักษะที่อยู่ในความต้องการ ณ ปัจจุบัน อาทิ ช่างอิเล็กทรอนิกส์ ช่างอุตสาหกรรม หรือ ทักษะในเชิงวิชาชีพ โดยจะพัฒนาทักษะการบริการจัดการ เพื่อเพิ่มโอกาสสำหรับคนว่างงาน โดยอาศัยความพร้อมในด้านต่าง ๆ จากท้องถิ่น วิสาหกิจชุมชน ผนวกเข้ากับองค์ความรู้ที่แต่ละคนสำเร็จการศึกษา คาดว่าจะสามารถพัฒนาไปสู่การมีงานทำได้กว่า 6,000 คน และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 185 ล้านบาท

อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า สำหรับคนว่างงานที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา กสอ.ได้มีการพัฒนาโครงการพิเศษเพื่อสร้างโอกาสเป็นผู้ประกอบการ โดยจัดอบรมออนไลน์การประกอบธุรกิจ การเขียนแบบจำลองธุรกิจออนไลน์และแผนทดสอบการตลาด ซึ่งกำหนดคนเข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 2,500 คน และคาดว่าไม่ต่ำกว่า 15% ของที่เข้าร่วมอบรมจะสามารถพัฒนาเป็นผู้ประกอบการยุคใหม่ได้ เช่น ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ หุ่นยนต์ โลจิสติกส์ ดิจิทัล การแพทย์และสาธารณสุข แฟชั่น เกษตรแปรรูป เป็นต้น

อย่างไรก็ดี มาตรการฟื้นฟูจะช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมผ่านพ้นภาวะวิกฤต เสริมภูมิคุ้มกันที่จำเป็นเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต โดยคาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 800 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นหนึ่งในปัจจัยการขับเคลื่อนและกระตุ้น GDP ในกลุ่ม SMEs ของประเทศภายในระยะ 90 วัน และนอกจากมาตรการเร่งด่วนดังกล่าว กสอ.ยังได้เตรียมนำมาตรการฟื้นฟูในระยะยาวจาก พ.ร.ก.กู้เงินฯ เพื่อเสริมแกร่งให้กับผู้ประกอบการอย่างเต็มความสามารถต่อไป