MOVEMENT NEWS

โคเน่ เปิดตัวศูนย์ฝึกอบรมและให้บริการลูกค้าอัจฉริยะในประเทศไทย
POSTED ON 01/09/2562


Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics

 

โคเน่ เปิดตัวศูนย์ฝึกอบรมและให้บริการลูกค้าอัจฉริยะในประเทศไทย พร้อมรองรับลูกค้าที่มีมากกว่า 1,500 รายในประเทศไทย และเป็นศูนย์ฝึกอบรมที่ถ่ายทอดองค์ความรู้ระดับมืออาชีพจากผู้เชี่ยวชาญให้กับพนักงานของโคเน่ที่มีมากกว่า 330 คนในประเทศไทย

นายแอนโทนี ตัน กรรมการผู้จัดการ โคเน่ ประเทศไทย กล่าวว่า ศูนย์ฝึกอบรมแห่งนี้เป็นศูนย์ฝึกอบรมดิจิทัล ที่มีเทคโนโลยีใหม่และนวัตกรรมล้ำสมัยที่สุดในอุตสาหกรรมนี้ และวิธีการเรียนรู้ในรูปแบบใหม่ๆ อย่างเช่น การใช้เทคโนโลยีการจำลองสภาพเสมือนจริงโดยคอมพิวเตอร์ (VR) การนำกลไก รูปแบบของเกมมาใช้เพื่อให้ผู้เรียนรู้สนุก รู้สึกเหมือนเล่นเกม และ การใช้ระบบอีเลิร์นนิ่ง แอปพลิเคชั่นด้านการเรียนรู้ การจำลองสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในศูนย์ดูแลลูกค้า เพื่อใช้ฝึกอบรมผลิตภัณฑ์และบริการของโคเน่ (KONE Customer Care Center - KC3) ศูนย์ฝึกอบรมและให้บริการดังกล่าว ติดตั้งเทคโนโลยีใหม่ๆ ตัวอย่างเช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และอินเทอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่ง (Internet of Things (IoT)) หรือ การเชื่อมต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่สามารถเชื่อมโยงหรือส่งข้อมูลถึงกันได้ด้วยอินเทอร์เน็ตโดยไม่ต้องป้อนข้อมูลเข้าไปอีกครั้ง เพื่อให้บริการลูกค้า และ แก้ไขปัญหาผ่านระบบออนไลน์ได้อย่างราบรื่นและรวดเร็วตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน ภายในโชว์รูมมีการจัดแสดงโซลูชั่นต่างๆ ของโคเน่ รวมไปถึงนวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น สายเคเบิลแบบคาร์บอนไฟเบอร์ (UltraRope) ที่มีลักษณะเบากว่าสายเคเบิลเหล็กแบบเดิม สายเคเบิลเหล็กแบบเดิมมีน้ำหนักมากทำให้ต้องใช้พลังงานมากในการขับเคลื่อนลิฟต์ขึ้น-ลง สายเคเบิลคาร์บอนไฟเบอร์แบบใหม่นี้สามารถลดน้ำหนักลิฟต์ได้มากถึง 80 เปอร์เซ็นต์ และสามารถประหยัดพลังงานได้ 11 เปอร์เซ็นต์

"ศูนย์ฝึกอบรมและให้บริการลูกค้าในประเทศไทยจะสามารถตอบสนองความต้องการ 2 ส่วนหลักของเรา คือ หนึ่งลูกค้า และสอง คือพนักงาน ด้วยสังคมเมืองของประเทศไทยที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว และก้าวเข้าสู่เมืองที่มีความอัจฉริยะมากขึ้น และการสร้างอาคารสูง ดังนั้น การควบคุมอาคารด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ ทำให้เราต้องให้บริการลูกค้าทางโทรศัพท์ตลอดเวลา ทำงานผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลและ นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบรับกับระบบการจัดการที่เก่งขึ้น และสังคมเมืองที่กำลังพัฒนา"

ประเทศไทยมีการขยายตัวของสังคมเมืองเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยคาดว่าจะมีมากกกว่าครึ่งของประชากรทั้งหมด คิดเป็น 52.9 เปอร์เซ็นต์ในปี 2565 โดยอาจสูงถึง 60 เปอร์เซ็นต์ในปี 2573 ด้วยความพยายามในการผลักดันให้เป็นประเทศที่มีรายได้สูง รัฐบาลได้กำหนดเป้าหมายการก้าวเข้าสู่การเป็นสมาร์ทซิตี้ 30 แห่งใน 24 จังหวัดภายในปี 2563 และคาดการณ์ว่าจะปรับเปลี่ยนเป็นสมาร์ทซิตี้ในอีก 100 เมืองในปี 2565 การนำเอานวัตกรรมเข้ามาใช้ และ การเป็นสมาร์ทซิตี้ จะทำให้เกิดความต้องการในการนำเอานวัตกรรมใหม่ๆ เช่น โซลูชั่นด้านอาคารอัจฉริยะมาใช้ในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น