MOVEMENT NEWS

Kerui Petroleum เซ็นสัญญาร่วมทุนจัดตั้งบริษัทในมาเลเซีย ระหว่างมหกรรม OGA 2017
POSTED ON 02/08/2560


Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics

 

 

มหกรรม Oil and Gas Asia (OGA) 2017 ได้จัดขึ้น  ศูนย์การประชุมกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 11-13 ก.ค.2560 ที่ผ่านมา โดยมหกรรมสุดยิ่งใหญ่ประจำปีของแวดวงพลังงานได้จัดขึ้นเป็นเวลา 3 วัน บนพื้นที่จัดแสดง 9 ฮอลล์ พร้อมพาวิลเลียนจัดแสดงสินค้าจาก 11 ประเทศทั่วโลก และมีบริษัทร่วม 2,000 แห่ง จาก 60 ประเทศมาร่วมนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการของตนในงานนี้

 

บริษัทสัญชาติจีนอย่าง Kerui Petroleum ได้เข้าร่วมมหกรรม OGA เป็นครั้งแรกในปีนี้ และประสบความสำเร็จอย่างงดงาม โดย Kerui Petroleum ได้เซ็นสัญญากับบริษัท Emerging EPC Sdn Bhd ของมาเลเซีย เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่ขึ้นที่นี่ โดยมี นายวัน ซุลกิฟลี ซีอีโอของ PETRONAS ให้เกียรติเป็นสักขีพยานในการลงนาม และในโอกาสนี้ นายอะหมัด ซาฮิด บิน ฮามิดี รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้เยี่ยมชมบูธของ Kerui ในวันเปิดงานพร้อมทั้งกล่าวชื่นชมศักยภาพอันแข็งแกร่งในด้านการผลิตอุปกรณ์ การให้บริการด้านเทคโนโลยี การลงทุน และการดำเนินงานของ Kerui

 

นายเจียง เปาหัว ผู้จัดการทั่วไปของ Kerui Petroleum ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้กล่าวถึงแผนการขั้นต่อไปของทางบริษัท โดยระบุว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กลุ่ม Kerui ได้เร่งขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศ พร้อมกับขยายไลน์ผลิตภัณฑ์และบริการให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง ชื่อเสียงที่ดี และเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุม ได้ส่งผลให้ Kerui เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น สำหรับการดำเนินงานของบริษัทในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนั้น ได้มีการวางระบบการตลาดและการบริการที่ทันสมัยครบวงจรครอบคลุมทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งการตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาในสิงคโปร์ รวมถึงการเป็นเจ้าของ WEFIC บริษัทในเครือในสิงคโปร์ซึ่งเชี่ยวชาญด้านบริการวิศวกรรมปิโตรเลียม ตลอดจนการตั้งศูนย์บริการในประเทศไทย ซึ่งมีหน้าที่จัดหาชิ้นส่วน ประกอบ และบำรุงรักษาเครื่องมือขุดเจาะและอุปกรณ์สำหรับการสำรวจน้ำมัน ไปจนถึงการเปิดสาขาในหลายประเทศ ได้แก่ อินเดีย อินโดนีเซีย และปากีสถาน เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการให้แก่ลูกค้า 

 

นายเจียง กล่าวเสริมว่า นับตั้งแต่ Kerui Petroleum รุกเข้าสู่ตลาดมาเลเซียในปี 2558 ทางบริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญกับการวางรากฐานธุรกิจในมาเลเซียมาโดยตลอด สำหรับการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่นี้ จะช่วยให้บริษัทสามารถประกอบสินค้าป้อนตลาดมาเลเซียได้เลย ซึ่งคาดว่าจะมีบทบาทสำคัญในการขยายธุรกิจของ Kerui Petroleum ไปยังประเทศอื่น ๆ ที่อยู่ตามแนวเส้นทางสายไหมของรัฐบาลจีน อันเป็นโครงการพัฒนาการค้าระหว่างจีนและประเทศต่างๆ ทั่วยุโรปและเอเชีย

 

ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมิได้เป็นเพียงจุดหมายปลายทางสำคัญของโครงการเส้นทางสายไหมเท่านั้น แต่ยังเป็นตลาดที่สำคัญของ Kerui Petroleum ด้วยความสามารถในการบูรณาการทรัพยากรที่มีคุณภาพสูงของกลุ่ม รวมถึงผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีทรัพยากรมนุษย์ การใช้ประโยชน์ทางการเงิน และสินทรัพย์ในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซทั่วโลก กลุ่มบริษัทฯ จึงวางแผนที่จะใช้ประโยชน์จากโครงการเส้นทางสายไหมอย่างเต็มที่ ซึ่งความพยายามเหล่านี้จะช่วยให้บริษัทสามารถจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการคุณภาพสูงให้แก่ลูกค้า และช่วยให้พวกเขาประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น