MOVEMENT NEWS

โตโยต้า เปิดตัวโครงการ ?โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์?
POSTED ON 19/08/2557


 

นายวิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วย นายประภาศ บุญยินดี รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดตัวนวัตกรรมสังคมรูปแบบใหม่ขององค์กร โครงการ “โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์” ที่ว่าด้วยการเสริมสร้างศักยภาพในการดำเนินธุรกิจของชุมชน โดยมี นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วย ผศ.ดร.กฤตินี ณัฏฐวุฒิสิทธิ์ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ นายณัฐพงษ์ จารุวรรณพงศ์ ผู้อำนวยการ  สำนักงานสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ ร่วมเวทีเสวนา “นวัตกรรมสังคม ปฏิรูปสังคมไทยได้จริงหรือ?” เพื่อแลกเปลี่ยนแนวทางการดำเนินงานนวัตกรรมสังคมเพื่อขับเคลื่อนสังคมไทยสู่ยุคแห่งการพัฒนาอย่างยั่งยืน ในวันที่ 19 สิงหาคม 2557 ณ ห้องคริสตัลฮอลล์ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี กรุงเทพฯ  

 

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด มีแนวคิดในการยกระดับการการดำเนินงานเพื่อพัฒนาสังคมสู่ความยั่งยืนเนื่องในโอกาสการดำเนินงานครบ 50 ปีในประเทศไทย ภายใต้สโลแกน “โตโยต้า ขับเคลื่อนความสุข” โดยหนึ่งในความมุ่งมั่นที่จะส่งความสุขให้คนไทยคือ การริเริ่มโครงการ “โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์” นวัตกรรมสังคมรูปแบบใหม่ เพื่อขับเคลื่อนสังคมไทยให้เข้าสู่ยุคของการพัฒนาอย่างยั่งยืน

 

โครงการนี้ว่าด้วยการที่โตโยต้าเข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาศักยภาพแก่ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมในแต่ละชุมชน อันเป็นภาคส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในแต่ละชุมชนของไทย เพื่อเพิ่มอัตราการอยู่รอดและเพิ่มโอกาสในการแข่งขันทางการตลาด อันจะช่วยกระจายรายได้แก่ประชาชนและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม ช่วยให้คนไทยพึ่งพาตนเองได้อย่างมั่นคง

 

โครงการโตโยต้าธุรกิจชุมชนพัฒน์ คือ การนำความรู้ที่เป็นปัจจัยแห่งความสำเร็จของโตโยต้าทั่วโลก ได้แก่ “วิถีโตโยต้า” (Toyota Way) และ “ระบบการผลิตแบบโตโยต้า” (Toyota Production System) มาประยุกต์ใช้กับธุรกิจชุมชนของไทย โดยไม่จำกัดเฉพาะธุรกิจที่อยู่ในห่วงโซ่ธุรกิจหลักของโตโยต้าเท่านั้น มุ่งเน้นการหาแนวทางปรับปรุงแก้ปัญหาที่มักพบในธุรกิจชุมชน ได้แก่

 

● ความสามารถในการผลิต (Productivity) เพิ่มผลผลิต ช่วยเพิ่มรายได้

● การส่งมอบงานตรงเวลา (Delivery) ลดการเสียโอกาสในการขาย เพิ่มความน่าเชื่อถือ เพิ่มโอกาสการส่งออก

● การควบคุมคุณภาพ (Quality control) ลดของเสียในการผลิต ลดต้นทุน สินค้ามีมาตรฐาน

● การบริหารสินค้าคงคลัง (Inventory management) ลดการสูญเสียต้นทุนที่เกิดจากการบริหารสินค้าคงคลังและการจัดเตรียมวัตถุดิบที่ไม่เหมาะสม

● การบริหารต้นทุนในกระบวนการ (Work in process cost) ลดค่าใช้จ่ายที่เพิ่มต้นทุนการผลิตที่ไม่ก่อให้เกิดประสิทธิภาพ

 

โดยโตโยต้าจะส่งบุคลากรเข้าไปร่วมดำเนินงานในทุกกระบวนการ เพื่อให้ผู้ประกอบการเกิดความเข้าใจถึงแนวทางการพัฒนาศักยภาพธุรกิจของตนอย่างแท้จริง ตั้งแต่การไปยังแหล่งข้อมูลเพื่อศึกษาปัญหา ณ หน้างาน เพื่อให้สามารถระบุปัญหาและหาแนวทางแก้ปัญหาได้อย่างแม่นยำ จากนั้นจึงนำเอา ระบบการผลิตแบบโตโยต้า (Toyota Production System) มาใช้เพื่อลดต้นทุน ควบคุมคุณภาพ และเพิ่มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังได้นำ "วิถีโตโยต้า" (Toyota Way) มาถ่ายทอดเพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ประกอบการนำมาพัฒนาการทำงานเพื่อต่อยอดธุรกิจของตนต่อไป

 

โตโยต้าได้เริ่มดำเนินงานโครงการทดลองโตโยต้าธุรกิจชุมชนพัฒน์ ในปี 2556 โดยปัจจุบันดำเนินการแล้วเสร็จ 3 แห่ง ได้แก่ (1) กลุ่มโอทอปธุรกิจชุมชนเสื้อโปโลฮาร์ท สปอร์ตแวร์ จ.กาญจนบุรี (2) หัตถกรรมพื้นบ้านเตยปาหนัน บ้านวังหิน จ.กระบี่ และ (3) แกงไตปลาแม่บ้านเกษตรกรท่าข้ามสัมพันธ์ จ.ตรัง

 

พร้อมกันนี้โตโยต้ามีแผนที่จะขยายผลการดำเนินงานในปี พ.ศ.2557 กับธุรกิจชุมชนอีก 3 แห่ง ในภาคกลางตอนล่าง ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อให้มีโครงการนำร่องในทุกภูมิภาค โดยคาดว่าจะดำเนินงานแล้วเสร็จในปี 2558 และมีแผนที่จะขยายโครงการให้ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศภายในปี พ.ศ.2563

 

นอกจากนี้ ยังมีแผนการพัฒนาโครงการ “โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์” ในการให้บริษัทในเครือฯ และภาคส่วนต่างๆ ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการอย่างครบวงจร อาทิ การให้ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ ร่วมมือกับ กรมการพัฒนาชุมชน ในการเฟ้นหาธุรกิจชุมชนเพื่อเข้าร่วมโครงการพร้อมติดตามประเมินผลการดำเนินงาน หรือร่วมกับ บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ในการให้คำแนะนำในเรื่องการจัดการระบบบัญชีและบริหารงบประมาณของธุรกิจ เป็นต้น

 

โตโยต้ายังมีแผนในการขยายความร่วมมือไปยังพันธมิตรทางธุรกิจอื่นๆ ที่มีความชำนาญในการดำเนินธุรกิจที่ต่างกัน เพื่อแบ่งปันความรู้และขยายโอกาสในการดำเนินธุรกิจแก่ผู้ประกอบการรายย่อยต่อไป