MANUFACTURING

BIG ตั้งโรงงานผลิตก๊าซไฮโดรเจนแห่งที่ 2 รองรับอุตฯปิโตรเคมี-โรงกลั่น-เชื้อเพลิงยานยนต์
POSTED ON 04/10/2561


Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics

 

 

นายปิยบุตร จารุเพ็ญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส จำกัด หรือ บีไอจี (BIG) เปิดเผยว่า บริษัทฯ กำลังดำเนินการก่อสร้างโรงงานผลิตก๊าซไฮโดรเจนแห่งที่ 2 (หนองแฟบ) ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเปิดดำเนินการปี 2562 ด้วยกำลังการผลิตไฮโดรเจน 12,000 ตันต่อปี เพื่อเป็นฐานการผลิตก๊าซอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่งของประเทศ รองรับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและโรงกลั่นในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี เพื่อใช้ในกระบวนการผลิตในโรงงานโพรพิลีนออกไซด์ ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการผลิตโพลีออลส์ของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ จีซี (GC)

 

สำหรับขีดความสามารถการผลิตของโรงงานผลิตก๊าซไฮโดรเจนแห่งนี้ นอกจากใช้ในกระบวนการผลิตของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและโรงกลั่นแล้ว ยังสามารถขยายตลาดไปสู่อุตสาหกรรมด้านพลังงานเพื่อใช้กับรถยนต์ได้อีกด้วย เนื่องจากปัจจุบันไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิง ที่มีการวิจัยและพัฒนาของค่ายรถยนต์ ทั้งในยุโรป สหรัฐ และญี่ปุ่น ทำให้ตลาดพลังงานไฮโดรเจนจะเป็นเชื้อเพลิงแห่งอนาคตที่ไม่สร้างมลภาวะด้านสิ่งแวดล้อม

 

โรงงานแห่งนี้คาดว่าจะดำเนินการในเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 4 ปี 2562 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการผลิตก๊าซไฮโดรเจนรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ผลิตและจำหน่ายอย่างครบวงจร โดยนำเทคโนโลยีและระบบการจัดจำหน่ายก๊าซไฮโดรเจนผ่านระบบโครงข่ายท่อ เพื่อส่งตรงไปยังกลุ่มลูกค้าทั้งกลุ่มปิโตรเคมีและกลุ่ม โรงกลั่นที่ใช้ก๊าซไฮโดรเจนในกระบวนการผลิต

 

“ภาพรวมของอุตสาหกรรมก๊าซไฮโดรเจนยังเติบโตต่อเนื่องปีละ 5-10% จากความต้องการใช้ในกระบวนการผลิตทั้งในกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ยานยนต์ รวมถึงการใช้เป็นพลังงานทางเลือกแห่งอนาคต ที่นอกจากการนำไปเป็นเชื้อเพลิงในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังสามารถพัฒนาไปสู่เป็นเทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิง และระบบกักเก็บพลังงานในรูปแบบไฮโดรเจนได้อีกด้วย ซึ่งปัจจุบันเป็นเทคโนโลยีที่อยู่ระหว่างการพัฒนาทั่วโลก” นายปิยบุตร กล่าว