Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics

บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำดื่ม “คริสตัล” (Crystal) ทุ่มงบลงทุน 350 ล้านบาท ขยายสายการผลิตแห่งใหม่ใน จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมตั้งเป้ายอดขายในปีนี้เติบโต10%

นายเลสเตอร์ เต็ก ชวน ตัน รองกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท ไทยดริ้งค์ จำกัด และกรรมการผู้จัดการ บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดน้ำดื่มในปี 2559 ที่ผ่านมา มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 35,000 ล้านบาท เติบโตราว 8% และคาดว่าตลาดน้ำดื่มในช่วง 3 ปีจากนี้จะเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 10%

สำหรับน้ำดื่มคริสตัลในปีที่ผ่านมาเติบโตมากกว่าอัตราการเติบโตของตลาดรวม อยู่ที่ 13% และมีส่วนแบ่งการตลาดถึง 19% ขยับใกล้เคียงกับผู้นำในตลาดนี้ที่มีส่วนแบ่งการตลาดราว 22-23%

ในปีนี้เราตั้งเป้าที่จะคว้าส่วนแบ่งทางการตลาดให้ได้ 22% โดยปัจจัยที่ทำให้น้ำดื่มคริสตัลเติบโตต่อเนื่อง นอกเหนือจากแผนการตลาด สร้างการรับรู้แบรนด์ขยายฐานลูกค้าแล้ว ส่วนหนึ่งยังเป็นผลมาจากความเชื่อมั่นคุณภาพของน้ำดื่มคริสตัลที่ได้รับรางวัลและมาตรฐานการผลิตต่าง ๆ จาก 5 สถาบันซึ่งได้รับการยอมรับทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่

1.การรับรองมาตรฐาน NSF International จากสหรัฐอเมริกาเป็นรายแรกของประเทศไทย

2.รางวัล อย. ควอลิตี้อวอร์ด ติดต่อกัน 4 ครั้ง

3.มาตรฐาน ISO 22000 Food Safety การบริหารจัดการความปลอดภัยด้านอาหาร

4.มาตรฐานฮาลาล เครื่องหมายตรารับรองสำหรับพี่น้องชาวมุสลิมนอกจากนี้

5.การขึ้นทะเบียน “ฉลากลดโลกร้อน” ในฐานะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ด้านบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ในฐานะบริษัทแม่ ได้วางวิสัยทัศน์ 2020 กับการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพให้กับกลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ หรือ นอน-แอลกอฮอล์ ดังนั้น ทางบริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) จึงมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้น้ำดื่มคริสตัลเติบโตต่อเนื่อง พร้อมทั้งวางแผนการเพิ่มช่องทางจำหน่ายให้ครอบคลุมทุกพื้นที่มากยิ่งขึ้น

ขณะที่ล่าสุด ทางบริษัทฯ ได้ลงทุนสายการผลิตใหม่ โดยใช้งบลงทุนราว 350 ล้านบาท เปิดสายการผลิตที่โรงงานนทีชัย อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ใจกลางภาคใต้ ด้วยกำลังการผลิต 36,000 ขวดต่อชั่วโมง หรือ 1.2 ล้านลังต่อเดือน ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการจัดการต้นทุนและกระจายสินค้าครอบคลุมทั่วภาคใต้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จากปัจจุบันที่มีมีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 10 ล้านลังต่อเดือน จากโรงงานรวม 12 แห่งในประเทศไทย ได้แก่ ปทุมธานี 2 แห่ง, ชลบุรี 2 แห่ง, สุราษฎร์ธานี 2 แห่ง, นครปฐม 1 แห่ง, พระนครศรีอยุธยา 1 แห่ง, กำแพงเพชร 1 แห่ง, นครสวรรค์ 1 แห่ง, นครราชสีมา 1 แห่ง และขอนแก่น 1 แห่ง

โดยสายการผลิตแห่งใหม่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี นี้ได้ออกแบบและพัฒนาเทคโนโลยีด้านการผลิตที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งถือได้ว่าเป็นสายการผลิตใหม่ที่ทันสมัยและได้มาตรฐานระดับโลก ทั้งยังช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง 397,440 KWh (กิโลวัตต์-ชั่วโมง) ต่อปี คิดเป็นปริมาณลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 415 CO2e ตัน (คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า) ต่อปี