LOGISTICS

เสนอรัฐตั้งงบกลาง ลงทุนระบบราง หาก พ.ร.บ. 2 ล้านล้านบาทสะดุด
POSTED ON 26/02/2557


 

ข่าวโลจิสติกส์ (Logistics News) - นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายเเละแผนการขนส่งเเละจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า หากศาลรัฐธรรมนูญตีความร่าง พ.ร.บ.ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาทขัดกฎหมาย สนข.จะเสนอให้รัฐบาลตั้งงบกลางมาลงทุน ระบบราง อาทิ โครงการรถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง และรถไฟรางคู่ เนื่องจากโครงการดังกล่าวมีความจำเป็น เพราะเป็นการลงทุนเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในอนาคต

 

“เตรียมสรุปโครงการสำคัญๆ ให้รัฐบาลพิจารณาเพื่อจัดสรรงบประมาณมาลงทุน โดยอาจให้เป็นงบประมาณผูกพัน แต่หากรัฐบาลไม่มีเงิน อาจใช้เป็นเงินกู้ทั้งเงินกู้ในประเทศและต่างประเทศ หรือให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุน โดยจะพิจารณาเป็นตามลำดับความสำคัญของโครงการยอมรับว่าหาก พ.ร.บ.ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ขัดต่อกฎหมายจริง ก็อาจทำให้โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต้องใช้เวลามากกว่า 7 ปี” นายจุฬา กล่าว

 

สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูง ยังคงเดินหน้าทำการศึกษาตามขั้นตอน คาดว่าผลการศึกษาผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ของสายกรุงเทพฯ-พิษณุโลก จะแล้วเสร็จปลายเดือน มี.ค.2557 ส่วนกรุงเทพฯ-นครราชสีมา และกรุงเทพฯ-หัวหิน จะแล้วเสร็จปลายเดือน เม.ย.2557 

 

นางสาวรัชนี ตรีพิพัฒน์กุล ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่าบอร์ดได้พิจารณาเตรียมความพร้อมของโครงการต่างๆ ก่อนที่จะไปนำเสนอขออนุมัติต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ประกอบด้วยการขออนุมัติก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงปากเกร็ด-แคราย-มีนบุรี และสายสีส้ม เฟสแรกช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี เสนอแก้ไข พ.ร.บ. รฟม. เกี่ยวกับการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์และการปรับเพิ่ม วงเงินการอนุมัติโครงการที่ต้องให้ ครม.เห็นชอบจากเดิมโครงการที่วงเงินเกิน 10 ล้าน เป็น 100 ล้านบาทเพื่อให้เกิดความคล่องตัว และบอร์ดได้อนุมัติงบรายจ่ายประจำปี 2558 ซึ่งเป็นงบดำเนินการ 111,273 ล้านบาท งบเบิกจ่าย 57,008 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ที่ใช้งบดำเนินการอยู่ที่ 63,401 ล้านบาท และงบเบิกจ่าย 35,557 ล้านบาท

 

ที่มา : ไทยโพสต์