LOGISTICS

"ไทเกอร์" ลุยเทรดดิ้งและชิปปิ้ง คว้างานมัน อคส. 2 หมื่นตัน ส่งออกจีน
POSTED ON 13/01/2557


 

ข่าวโลจิสติกส์ - นายวิเชียร กันตถาวร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทเกอร์ ดิสทริบิวชั่น แอนด์ โลจิสติกส์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจจัดส่งสินค้า การนำเข้าและการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ ในเครือสหพัฒน์ เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2557 ว่า บริษัทได้เตรียมยื่นจดทะเบียนขยายขอบข่ายการดำเนินธุรกิจเพิ่ม ในส่วนของธุรกิจรับจัดจำหน่ายหรือเทรดดิ้งและชิปปิ้ง กับกระทรวงพาณิชย์ เนื่องจากบริษัทต้องการรูปแบบการดำเนินธุรกิจให้เพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่มีธุรกิจหลักคือ การขนส่งสินค้าทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการให้บริการด้านคลังสินค้า

 

โดยธุรกิจเทรดดิ้งและชิปปิ้ง บริษัทฯ ได้เข้ารับซื้อมันเส้นจากเกษตรกร และองค์การคลังสินค้า กระทรวงพาณิชย์ (อคส.) เพื่อส่งออกไปยังประเทศจีนที่สั่งซื้อมันเส้นเพื่อนำไปผลิตเอทานอล โดยคำสั่งซื้อในล็อตแรกมีจำนวน 2 หมื่นตัน จากเดิมที่ก่อนหน้านี้บริษัทให้บริการรับจ้างขนส่งมันเส้นเท่านั้น ซึ่งในอนาคตหากมีการเปิดแอลซีเพื่อสั่งซื้อมันเส้นเพิ่ม จะทำให้บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้นด้วย เพราะแต่ละล็อตจะมีมูลค่าสูงถึง 120 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ การขยายธุรกิจเทรดดิ้งและชิปปิ้งดังกล่าว จะช่วยผลักดันให้บริษัทฯ สร้างการเติบโตในปีนี้ได้ถึง 30% จากปีที่ผ่านมาที่มียอดขาย 370 ล้านบาท นอกเหนือจากธุรกิจด้านการขนส่งสินค้า การบริหารคลังสินค้า และธุรกิจอื่นๆ โดยเฉพาะในส่วนธุรกิจการขนส่งสินค้า ที่มีกลุ่มลูกค้าใหม่เป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์  ซึ่งบริษัทรับขนส่งชิ้นส่วนพรีคาสต์ที่ใช้เป็นส่วนประกอบในการก่อสร้างที่อยู่อาศัย ไปยังพื้นที่โครงการก่อสร้างทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้นด้วย

 

"ปีที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายเท่ากับปีก่อนหน้า ถือว่าดีกว่าผู้ประกอบการรายอื่นๆ  เนื่องจากต้องยอมรับว่าปีที่ผ่านมาสภาพเศรษฐกิจไม่ดีมีผลต่อธุรกิจขนส่งอย่างมาก โดยเฉพาะการปรับขึ้นค่าแรงทำให้กำไรในการดำเนินธุรกิจน้อยลง แต่บริษัทยังคงรักษาอัตรากำไรที่ดีไว้ได้  แม้ว่ายอดขายจะไม่เพิ่มขึ้นก็ตาม เป็นเพราะการบริหารภายในช่วยลดต้นทุน รวมถึงการรับจ้างในธุรกิจที่เห็นว่าสามารถมีกำไรได้เท่านั้น ตัวอย่างเช่น ช่วงครึ่งปีหลัง ที่เริ่มรับลูกค้าบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) และขณะนี้มีหลายบริษัทในธุรกิจอสังหาฯ ให้ความสนใจต้องการใช้บริการของบริษัทเพิ่มขึ้นด้วย"

 

สำหรับสัดส่วนรายได้ปัจจุบันของบริษัท รายได้หลักยังคงเป็นรายได้จากจัดส่งสินค้า 40% ที่มีกลุ่มลูกค้าทั้งธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจบัตรเครดิต ธุรกิจอสังหาฯ เป็นต้น โดยสัดส่วนกว่า 80% ของรายได้จะเป็นบริษัทที่อยู่นอกกลุ่ม ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีรายได้จากการบริหารคลังสินค้า 15% ธุรกิจชิปปิ้ง 15% ธุรกิจออร์แกไนซ์ 10% และที่เหลือเป็นธุรกิจอื่นๆ

 

นายวิเชียร กล่าวอีกว่า เพื่อเป็นการรองรับการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน หรือ เออีซี ในปี 2558 บริษัทฯ ได้ร่วมทุนกับกลุ่มเอ็มเค ของประเทศเมียนมาร์ จัดตั้งบริษัท ไทเกอร์ เมียนมาร์ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียนเบื้องต้น 3 แสนเหรียญสหรัฐ เพื่อดำเนินธุรกิจโลจิสติกส์ในประเทศเมียนมาร์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท และการจัดหาที่ดินเพื่อก่อสร้างคลังสินค้า โดยทางกลุ่มเอ็มเคจะถือหุ้นในสัดส่วน 60% บริษัทถือหุ้น 40% เบื้องต้นบริษัทดังกล่าวจะจัดจำหน่ายสินค้าให้กับกลุ่มเอ็มเค  ที่ปัจจุบันเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าในกลุ่ม ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล ของเครือสหพัฒน์ในประเทศเมียนมาร์ด้วย โดยอนาคตจะมีการเชื่อมการขนส่งระหว่างไทเกอร์ในประเทศไทย กับบริษัทในเมียนมาร์ผ่านด่านชายแดนแม่สาย ซึ่งไทเกอร์คาดหวังว่าในช่วง 3 ปีแรกจะเป็นการวางรากฐานการดำเนินธุรกิจโลจิสติกส์ในเมียนมาร์ให้แกร่ง หลังจากนั้นจะเริ่มมีรายได้กลับคืนมาสู่บริษัท