Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics

นายปิติ ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจซัพพลายเชน และกรรมการบริหาร บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีอาร์เอฟ โลจิสติคส์ จำกัด เปิดเผยว่า จากภาวะการแข่งขันเรื่องราคาของตลาดค้าปลีกที่มีสูงในปัจจุบัน ทำให้ธุรกิจในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคต้องหันมาให้ความสำคัญกับการลดต้นทุนด้านขนส่งและการบริหารสต๊อกสินค้าเพื่อสร้างมาร์จิ้น บวกกับการขยายตัวของอีคอมเมิร์ซ ทำให้ดีมานด์ธุรกิจโลจิสติกส์เพิ่มสูงขึ้น สะท้อนจากธุรกิจขนส่งสินค้าทางบกที่มีมูลค่า 1.45-1.47 แสนล้านบาท และธุรกิจคลังสินค้ามูลค่า 7.5-7.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งเติบโต 5-7% ในปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม การขนส่งสินค้าทางบกยังมีช่องว่างในเซ็กเมนต์สินค้าอุปโภคบริโภค ล่าสุดทางบุญรอดฯ ได้จับมือกับลินฟ้อกซ์ ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์รายใหญ่สัญชาติออสเตรเลีย ซึ่งมีธุรกิจครอบคลุม 12 ประเทศในเอเชียแปซิฟิก และทำธุรกิจในไทยมากว่า 25 ปี มีลูกค้า 14 บริษัท อาทิ ไมเนอร์ เทสโก้ โลตัส และอื่น ๆ รวมถึงมีโนว์ฮาวด้านบริหารคลังสินค้า ตั้งบริษัท บีอาร์เอฟ โลจิสติคส์ จำกัด ขึ้น ด้วยทุนจดทะเบียน 250 ล้านบาท ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน โดยถือหุ้นสัดส่วน 50:50 เพื่อรุกธุรกิจโลจิสติกส์เต็มตัว เบื้องต้นจะเน้นให้บริการสินค้าในกลุ่มเครื่องดื่ม อาหาร และสินค้าอุปโภคบริโภค ส่วนลูกค้าเดิมของลินฟ้อกซ์ 14 ราย ลินฟ้อกซ์ก็จะยังดูแลต่อไป

นายปิติ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ขณะนี้อยู่ระหว่างวางระบบให้กับบียูต่าง ๆ ของบุญรอดฯ เอง และคาดว่าจะแล้วเสร็จใน 6 เดือน จากนั้นจะเริ่มรับลูกค้าในประเทศ เริ่มจากกลุ่มเครื่องดื่มและอาหาร นอกจากนี้ ยังมีแผนจะขยายบริการออกไปยังประเทศกลุ่มซีแอลเอ็มวีและยุโรป ซึ่งเศรษฐกิจขยายตัวดี มีความต้องการสินค้าไทย”

ทั้งนี้ บีอาร์เอฟ โลจิสติคส์ จะชูจุดขายในแง่ของการมีบริการที่ครบวงจร ตั้งแต่ความสามารถจัดส่งถึงร้านโชห่วยกว่า 2 แสนร้านทั่วประเทศ การมีคลังสินค้าในจุดต่าง ๆ ซึ่งมีพื้นที่รวมประมาณ 2 แสนตารางเมตร การวิเคราะห์บิ๊กดาต้าเพื่อทำโซลูชั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งโนว์ฮาวด้านบริหารคลังสินค้าของลินฟ้อกซ์ที่มีประสบการณ์ยาวนาน จะช่วยลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพ-บริการที่สูงกว่า

“มั่นใจว่ากลยุทธ์และโนว์ฮาวเหล่านี้จะช่วยให้ในปีแรกมีรายได้ 2,500 ล้านบาท และเติบโตเป็น 5,000 ล้านบาทในเวลา 3-5 ปี” นายปิติ กล่าว

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ