LOGISTICS

SCG Logistics เปิดตัว Nationwide One Stop Service รองรับลูกค้าเอสเอ็มอี
POSTED ON 23/02/2558


โลจิสติกส์อุตสาหกรรม - นายสยามรัฐ สุทธานุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี โลจิสติกส์ แมเนจเมนท์ จำกัด ในเครือเอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง กล่าวว่า สถานการณ์ธุรกิจโลจิสติกส์ในปัจจุบันยังคงมีการแข่งขันสูงและตลาดต่างจังหวัดมีการขยายตัวมากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการต้องการกระจายสินค้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศและส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ทำให้ต้องการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ

 

เอสซีจี โลจิสติกส์ จึงวางกลยุทธ์โดยให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ประกอบด้วย กลยุทธ์การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับลูกค้า โดยเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดของธุรกิจทั้งห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มระดับการบริการ การสร้างต้นทุนที่แข่งขันได้ โดยเน้นการบริหารสินค้าขาไปและขากลับ (Headhaul-Backhaul Management) และการขนส่งโดยใช้พาหนะหลายรูปแบบ (Multimodal)

 

นอกจากนี้ ยังขยายเครือข่ายการกระจายสินค้าเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจลูกค้าทั้งในประเทศและขยายไปยังกลุ่มประเทศในภูมิภาคอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาเครือข่ายการขนส่งข้ามประเทศ โดยเน้นพัฒนาด่านที่สำคัญ 3 ด่าน ได้แก่ อรัญประเทศ แม่สอดและมุกดาหาร การสร้างฐานและขยายเครือข่ายการขนส่งในกลุ่มประเทศ GMS และอินโดนีเซีย และการศึกษาการจัดตั้งบริษัท โลจิสติกส์ในประเทศพม่าและอินโดนีเซีย

 

เอสซีจี โลจิสติกส์ ยังมุ่งเน้นกลยุทธ์การพัฒนาบริการเพื่อรองรับธุรกิจเอสเอ็มอี โดยเปิดตัว "Nationwide One stop service" บริการกระจายสินค้าครบวงจร ทั้งการรับ-เก็บ-จ่ายสินค้า การบริหารสินค้าคงคลัง การจัดส่งถึงที่หมายทั่วประเทศภายในวันรุ่งขึ้น และสามารถตรวจสอบสถานะการจัดส่งได้ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง เพื่อรองรับธุรกิจ SMEs ที่ต้องการกระจายสินค้าที่ไม่เต็มเที่ยว แต่สามารถกระจายไปยังทั่วประเทศได้ เช่น กลุ่มสินค้าเคหะภัณฑ์และตกแต่งบ้าน

 

นอกจากนี้ ยังพัฒนาบริการให้สามารถส่งถึงทั่วประเทศได้ภายในวันรุ่งขึ้น เพื่อตอบสนองสินค้าที่ไม่สะดวกจัดเก็บที่ปลายทาง สินค้าที่ต้องการใช้งานอย่างเร่งด่วน และสินค้าที่มีอายุการเก็บสั้น เช่น กลุ่มอะไหล่ยนต์ โดยค่าขนส่งที่สูงขึ้นจะคุ้มค่าเนื่องจากได้ลดต้นทุนสินค้าคงคลัง และการไม่สูญเสียโอกาสทางการขาย ทั้งนี้ เอสซีจี โลจิสติกส์ตั้งเป้าเพิ่มยอดรายได้ Nationwide One Stop Service จากลูกค้านอกเครือฯ 10 เท่าภายใน 5 ปี

 

"เราลงทุนศูนย์กระจายสินค้าทั้งในส่วนกลางและในภูมิภาค รวมถึงระบบบริหารที่ใช้ควบคุมตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ตั้งแต่กระบวนการรับคำสั่งซื้อจนถึงการส่งมอบสินค้าและการชำระเงิน อาทิ ศูนย์กระจายสินค้าภาคกลาง วังน้อย ซึ่งเป็นศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ ลงทุนระบบที่ทันสมัยด้วยเงินลงทุนกว่า 500 ล้านบาท มีพื้นที่ให้บริการ 18,000 ตารางเมตร เชื่อมต่อภูมิภาคต่างๆ ทั่วไทย ลงทุนระบบต่างๆ ประกอบด้วย AS-RS (Automated Storage and Retrieval System) ระบบจัดเก็บและหยิบสินค้าอัตโนมัติบนชั้นวางสูง 13 ชั้น จัดเก็บและหยิบสินค้าได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ และรวดเร็ว เพิ่มความปลอดภัยให้กับสินค้า ชั้นวางสินค้าแบบ Selective Rack สูง 6 ชั้น พร้อมรถยกสินค้าแนวสูงและระบบจัดการคลังสินค้า SAP-EWM เวอร์ชั่นล่าสุดควบคุมการเก็บ/จ่ายสินค้าและจัดการทรัพยากรภายในคลัง" นายสยามรัฐ กล่าว

 

นอกจากนี้ ยังผลักดันกลยุทธ์การสร้างมาตรฐานและความยั่งยืนในธุรกิจโลจิสติกส์ โดยดำเนินโครงการถนนสร้างสุข ที่มุ่งมั่นลดอุบัติเหตุและสร้างถนนปลอดภัยให้กับสังคม โดยมีการสำรวจและรวบรวมข้อมูลเส้นทางที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อประสานงานกับภาครัฐในการปรับปรุงให้ปลอดภัยต่อไป อีกทั้งยังยกระดับมาตรฐานธุรกิจโลจิสติกส์โดยฝึกทักษะและสร้างจิตสำนึกขับขี่ปลอดภัยให้กับพนักงานขับรถของบริษัทฯ ด้วยการจัดอบรมและกิจกรรมต่างๆ โดยตั้งเป้ายอดขายที่ 17,300 ล้านบาท ภายในปีนี้ ซึ่งคิดเป็นอัตราเติบโตที่เพิ่มขึ้น 12%