LOGISTICS

เสริมแกร่งโลจิสติกส์ให้ผู้ประกอบการไทยด้วย RFID และ Barcode
POSTED ON 11/03/2558


โลจิสติกส์อุตสาหกรรม - สำนักโลจิสติกส์ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับ บริษัท เอเซนเทค (ประเทศไทย) จำกัด จัดทำโครงการส่งเสริมการปรับกระบวนการจัดการโลจิสติกส์ด้วยการใช้เทคโนโลยี Application ระบบ RFID และ Barcode เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการนำเทคโนโลยี RFID และ Barcode มาใช้ในการจัดการโลจิสติกส์ภายในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ เปิดตัวโครงการอย่างเป็นทางการโดยมีผู้ประกอบการกว่า 100 รายร่วมในงาน พร้อมปาฐกถาพิเศษเรื่อง "สำนักโลจิสติกส์กับการส่งเสริมการใช้ RFID ในยุค Digital Economy"

 

นางอนงค์ ไพจิตรประภาภรณ์ ผู้อำนวยการสำนักโลจิสติกส์ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวภายหลังการเปิดโครงการส่งเสริมการปรับกระบวนการจัดการโลจิสติกส์ด้วยการใช้เทคโนโลยี Application ระบบ RFID และ Barcode ว่า สำนักโลจิสติกส์เป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนาส่งเสริมระบบโลจิสติกส์อุตสาหกรรมตลอดโซ่อุปทาน โดยการเสนอแนะนโยบายและแผนงานในการพัฒนาระบบโลจิสติกส์อุตสาหกรรม ดำเนินการพัฒนาส่งเสริมระบบบริหารจัดการโลจิสติกส์ที่เชื่อมโยงตลอดโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมเป้าหมาย จัดทำมาตรฐานและตัวชี้วัดประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์อุตสาหกรรม สร้างองค์ความรู้และพัฒนาบุคลากรด้านโลจิสติกส์ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน และเป็นศูนย์กลางข้อมูลโลจิสติกส์อุตสาหกรรมที่มีประสิทธิภาพและทันสมัย

 

โดยดำเนินงานตามแผนแม่บทการพัฒนาระบบโลจิสติกส์อุตสาหกรรม (2555-2559) ใน 3 ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่ (1) ยุทธศาสตร์การสร้างความเป็นมืออาชีพด้านการจัดการโลจิสติกส์ในสถานประกอบการของภาคอุตสาหกรรม (2) ยุทธศาสตร์การส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือและการเชื่อมโยงระหว่างหน่วยธุรกิจในโซ่อุปทานของภาคอุตสาหกรรม และ (3) ยุทธศาสตร์การสนับสนุนการสร้างปัจจัยเอื้อเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมเป้าหมาย สำหรับการเปิดโครงการครั้งนี้ถือเป็นบทบาทหนึ่งตามยุทธศาสตร์การพัฒนาดังกล่าว โดยเน้นให้ผู้ประกอบการที่ร่วมโครงการได้รับประโยชน์สูงสุด ซึ่งได้มอบหมายให้ บริษัท เอเซนเทค (ประเทศไทย) จำกัด จัดทำโครงการในครั้งนี้ขึ้น

 

โครงการส่งเสริมการปรับกระบวนการจัดการโลจิสติกส์ด้วยการใช้เทคโนโลยี Application ระบบ RFID และ Barcode จะเริ่มตั้งแต่การศึกษาข้อมูลของสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ จนถึงการนำเทคโนโลยี Application ระบบ RFID และ Barcode ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์มาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับสถานประกอบการแต่ละแห่ง รวมทั้งพัฒนาบุคลากรในสถานประกอบการ เพื่อให้เกิดการตระหนักรู้ถึงความสำคัญและประโยชน์ที่จะได้รับจากเทคโนโลยีดังกล่าว

 

โดยสำนักโลจิสติกส์จะเป็นผู้สนับสนุนงบประมาณตลอดโครงการ ระยะเวลาในการจัดทำโครงการ 240 วัน เริ่มตั้งแต่เดือน ธ.ค.2557 ถึง ก.ค.2558 ปัจจุบันโครงการดำเนินงานไปตามขั้นตอนที่วางแผนไว้ และมีผู้ประกอบการให้ความสนใจค่อนข้างมากเกินความคาดหมาย

 

ด้าน นายกำพล โชคสุนทสุทธิ์ ประธานกรรมการ บริษัท เอแซนเทค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวในฐานะผู้ร่วมดำเนินโครงการว่า ระบบ RFID มีความสำคัญต่อการพัฒนาธุรกิจเป็นอย่างมาก แม้ว่าในอดีตบทบาทของ RFID จะอยู่ที่การจัดการด้านโลจิสติกส์ แต่ปัจจุบัน RFID มีการพัฒนาจนสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจได้ทุกประเภท โดยกรอบของการประยุกต์ใช้จะอยู่ที่การจัดเก็บข้อมูล การบันทึกข้อมูลปริมาณมากต่อเนื่อง การติดตามผลการทำงาน และการนำผลที่เกิดขึ้นมาประมวลให้เกิดประโยชน์สูงสุดในทางธุรกิจ ส่งผลให้ธุรกิจสามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ปัจจุบันระบบ RFID ถูกพัฒนาให้ผู้ใช้มีความปลอดภัยในการจัดเก็บข้อมูล มีฟังก์ชั่นในการทำงานมากขึ้น แต่มีต้นทุนในการพัฒนาระบบต่ำลง การที่สำนักโลจิสติกส์จัดทำโครงการนี้ขึ้น จึงสะท้อนให้ผู้ประกอบการเห็นมุมมองสำคัญ 2 ด้าน คือ (1) ระบบ RFID สามารถมาประยุกต์ใช้ได้กับทุกธุรกิจ และ (2) ความสามารถในการพัฒนาเทคโนโลยีโดยคนไทย ทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการในการใช้ระบบ RFID ต่ำลง จนสามารถนำต้นทุนนี้มาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานสู่การแข่งขันในระดับภูมิภาคและในระดับนานาชาติได้

 

จุดเด่นของโครงการคือการเลือกผู้ประกอบการที่มีลักษณะธุรกิจแตกต่างกันเข้าร่วมโครงการ การแยกประเภทธุรกิจชัดเจน ทำให้เห็นถึงศักยภาพที่แท้จริงของระบบ RFID ในการตอบโจทย์ด้านประสิทธิภาพของธุรกิจ เพราะแต่ละธุรกิจจะมีจุดแข็งและจุดอ่อนในการทำงานแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นด้านการผลิต ด้านการประมวลผลข้อมูล ด้านการจัดเก็บสินค้า ด้านการนำส่งสินค้า หรือด้านความปลอดภัย ฯลฯ

 

"ในฐานะบริษัทคนไทยที่สามารถเข้าถึงและเข้าใจปัญหาที่แท้จริงของผู้ประกอบการ โดยมีพันธมิตรทางธุรกิจที่เป็นบริษัทชั้นนำของโลกให้การสนับสนุนทั้งเทคโนโลยีและอุปกรณ์ ทำให้บริษัทฯ สามารถตอบโจทย์ความหลากหลายของธุรกิจ โดยวิเคราะห์จากความต้องการของผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดี" ประธานฯ เอแซนเทค (ประเทศไทย) กล่าว

 

สำหรับผู้ประกอบการรายใดที่สนใจการใช้เทคโนโลยี Application ระบบ RFID สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ โทร.0-2743-2533