โลจิสติกส์อุตสาหกรรม - นายเควิน เบอร์เรล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีเอชแอลซัพพลายเชนประเทศไทย ฟิลิปปินส์และเวียดนาม กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่ DHL supply chain เติบโตได้สูงที่สุดในอันดับต้นๆ ซึ่งการเปิดคลังสินค้าบางนาโลจิสติกส์แคมปัส จะช่วยเพิ่มการรองรับการเติบโตที่รวดเร็วดังกล่าว คลังสินค้าระดับโลกแห่งนี้ออกแบบตามความต้องการเฉพาะ เพื่อบริการที่เหนือกว่าคลังสินค้าทั่วไป เป็นศูนย์กลางด้านซัพพลายเซนสำหรับลูกค้าจากหลากหลายภาคธุรกิจ และจะเชื่อมโยงเข้ากับการขนส่งในระดับประเทศและภูมิภาคเต็มรูปแบบ

คลังสินค้าแห่งใหม่นี้จะตอบโจทย์ลูกค้าที่มีความต้องการเฉพาะที่มีความหลากหลาย โดยมอบบริการโลจิสติกส์คุณภาพสูง เพิ่มความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจ และความได้เปรียบทางด้านต้นทุน การใช้พื้นที่ แรงงาน และอุปกรณ์เครื่องจักรในการขนส่งสินค้า การออกแบบให้ตรงกับประโยชน์ใช้สอยของลูกค้าแต่ละราย ซึ่งเป็นจุดแข็งที่ทำให้ DHL ได้เปรียบคู่แข่งในปัจจุบันรวมทั้งคู่แข่งในอนาคต ทั้งนี้ คลังสิ้นค้าบางนาโลจิสติกส์แคมปัสมุ่งเน้นภาคธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคและค้าปลีกเป็นสำคัญ รวมทั้งในปีนี้มีแผนจะพัฒนาและเน้นหนักในธุรกิจยานยนต์และเทคโนโลยี

ขณะที่เศรษฐกิจในเอเชียยังคงเติบโตได้ดี ส่งผลให้ DHL เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และในอีก 5 ปีข้างหน้าจะมีการขยายคลังสินค้าอย่างต่อเนื่องในอำเภอวังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา และภาคตะวันออก รวมทั้งจังหวัดที่มีท่าเรือสำคัญ งบลงทุนประมาณ 50 ล้านยูโร

ปี 2557 มูลค่าการตลาดโลจิสติกส์อยู่ที่ประมาณ 3 แสนล้านบาท ในส่วน DHL เติบโต 6% สำหรับปี 2558 ตั้งเป้าเติบโตมากกว่า 10% ในห้าปีต่อจากนี้จะเติบโตเป็นสองเท่าตัว รายได้ยังคงมาจากการจัดส่งสินค้าและการจัดสินค้าในอัตรา 50 : 50 คาดว่ายานยนต์จะเติบโตดีที่สุดในปีนี้

ปัจจุบัน DHL มีเครือข่ายครอบคลุมมากกว่า 220 ประเทศ มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญพิเศษในด้านการขนส่งด่วนระหว่างประเทศ การขนส่งทางอากาศ ทางเรือ และทางบก ตลอดจน โซลูชั่นด้านโลจิสติกส์ต่างๆ รวมถึงโลจิสติกส์สำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซต่างๆ ทั่วโลก ทั้งนี้ DHL เป็นส่วนหนึ่งของดอยส์โพสต์ ดีเอชแอล โดยกลุ่มบริษัทมียอดรายได้กว่า 55,000 ล้านเหรียญยูโรในปี 2556