ข่าวโลจิสติกส์ - นายยู เจียรยืนยงพงศ์ ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงกรณีที่กระทรวงคมนาคมยืนยันไม่ผ่อนผันน้ำหนักรถบรรทุกชนิด 7 เพลา 24 ล้อ ที่อัตราบรรทุกรวม 58 ตัน ตามที่ผู้ประกอบการเรียกร้องว่า การปรับลดน้ำหนักบรรทุกจาก 58 ตัน เหลือ 50 ตัน ตามข้อกำหนดของกระทรวงคมนาคม จะส่งผลกระทบทำให้ต้นทุนค่าขนส่งสินค้าต่อหน่วยเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้น ผู้ประกอบการขนส่งจำเป็นจึงต้องผลักภาระค่าขนส่งที่สูงขึ้นให้กับผู้ใช้บริการ โดยเตรียมปรับค่าขนส่งขึ้น     

“ขณะนี้จะขอพิจารณาปัจจัยเรื่องดีมานด์และซัพพลายเกี่ยวกับการใช้รถบรรทุกเพื่อขนส่งสินค้า รวมทั้งปริมาณสินค้า ที่รอการขนส่งในแต่ละช่วงเวลาก่อนว่าเป็นอย่างไร เบื้องต้นจะเห็นว่าขณะนี้ความต้องการใช้รถขนสินค้ายังมีไม่มาก อาจจะยังไม่เหมาะที่จะปรับขึ้นราคาทันที แต่คาดว่าในช่วงเดือน พ.ย.2557 ที่จะถึงนี้ ความต้องการด้านการขนส่งสินค้าจะเพิ่มสูงขึ้นมาก เนื่องจากเข้าสู่ฤดูแห่งการเก็บเกี่ยวผลผลิตสินค้าทางการเกษตร ทำให้คาดว่าจะมีการใช้รถบรรทุกจำนวนมาก ซึ่งอาจเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่ผู้ประกอบการจะปรับขึ้นค่าขนส่ง เบื้องต้นคาดว่าจะปรับขึ้นประมาณ 5% โดยอัตราขนส่งสินค้าเกษตรอาจจะปรับราคาเป็นกิโลเมตรละ 1.10-1.20 บาทต่อเที่ยว ส่วนสินค้าอุตสาหกรรมจะปรับเป็นกิโลเมตรละ 1 บาทต่อเที่ยว“ นายยู กล่าว

ขณะที่ทางด้าน นายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่กรุงเทพฯ กล่าวว่า เครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ฯ เตรียมทำหนังสือถึงกระทรวงคมนาคมและกระทรวงพลังงาน ให้หามาตรการช่วยเหลือ หลังมีกระแสข่าวเตรียมปรับขึ้นราคาก๊าซแอลพีจีภาคขนส่ง และราคาก๊าซเอ็นจีวี ซึ่งส่งผลกระทบต่อต้นทุนของผู้ประกอบการที่ปัจจุบันมีจำนวนแท็กซี่ประมาณ 80,000 คัน ดังนั้นจึงอยากให้ภาครัฐจำหน่ายก๊าซแอลพีจีในราคาเดิม โดยช่วยเหลือในรูปแบบบัตรเครดิตพลังงาน เช่นเดียวกับกลุ่มแท็กซี่เอ็นจีวีที่ยังใช้ราคาเอ็นจีวีที่ 8.50 บาทต่อกิโลกรัม เพราะได้รับส่วนลดจากบัตรเครดิตพลังงาน 2 บาทต่อกิโลกรัม หากภาครัฐไม่ช่วยเหลือตามข้อเรียกร้อง เครือข่ายฯ จะปรับขึ้นค่าโดยสารแท็กซี่อย่างแน่นอน เพื่อชดเชยภาระต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น

ทางด้าน นายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างมอบหมายให้สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า มีความจำเป็นต้องปรับขึ้นค่าโดยสารหรือไม่ และต้องอยู่ในอัตราไหนจึงจะเหมาะสม ทั้งนี้ คาดว่าจะศึกษาแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย.2557 นี้ จากนั้น ขบ.จะนำผลการศึกษาเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาอีกครั้ง

ที่มา : ไทยโพสต์