IT & SOFTWARE

อินเทล รุกตลาดโมบายล์ล์พร้อมกระตุ้นการใช้งาน Internet of Things
POSTED ON 03/03/2557


 

ข่าวไอที (IT News) - เรเน่ เจมส์ ประธาน อินเทล คอร์ปอเรชั่น เผยรายละเอียดในงานประชุม MOBILE WORLD CONGRESS ที่จัดขึ้นที่เมืองบาเซโลน่า ประเทศสเปน ในวันนี้เกี่ยวกับพอร์ตโฟลิโอที่กำลังขยายออกไปของบริษัทในด้านการประมวลผลและด้านการสื่อสารสำหรับอุปกรณ์ที่เล็กที่สุดไปจนถึงเครือข่ายโมบายล์ล์ที่ซับซ้อนที่สุด พอร์ตโฟลิโอของผลิตภัณฑ์ได้ออกแบบมาเพื่อแข่งขันในตลาดของโทรศัพท์มือถือในยุคปัจจุบัน และวางกรอบการประมวลผลในอนาคตของ Internet of Things (IoT)

 

ในงานแถลงข่าวของอินเทล ประธานของอินเทลได้แนะนำ อินเทล อะตอม โปรเซสเซอร์ สองตัว แพลตฟอร์มการสื่อสาร LTE-Advanced ใหม่ และประกาศข้อตกลงที่ครอบคลุมระยะเวลาหลายปีกับ เลอโนโว เอซุส และฟอกซ์คอนน์ เพื่อเพิ่มความพร้อมใช้งานอุปกรณ์โมบายล์ที่ใช้เทคโนโลยีอินเทล ด้วยการเติบโตของอุปกรณ์เคลื่อนที่และเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตบนหลากหลายแพลตฟอร์ม โดย เรเน่ เจมส์ ได้เน้นถึงวิธีที่อินเทลปรับสถาปัตยกรรมโครงสร้างพื้นฐานด้านโครงข่ายอีกครั้งเพื่อลดต้นทุนและช่วยให้ง่ายสำหรับผู้ให้บริการในการมอบประสบการณ์ที่พัฒนาขึ้นและบริการใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้า โดยสร้างคุณค่าทางธุรกิจจากข้อมูลที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก

 

เจมส์ กล่าวว่า “การเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจโมบายล์ขึ้นอยู่กับการแก้ปัญหาความท้าทายที่ยากมากในด้านการประมวลผล ด้วยการปลดปล่อยศักยภาพของข้อมูลในขณะที่ให้การเชื่อมต่ออย่างเสถียรและปลอดภัยไปยังอุปกรณ์นับพันล้านเครื่องด้วยระบบการประมวลผลและเทคโนโลยีการสื่อสารชั้นนำ”

 

“วันนี้เรากำลังประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์การสื่อสารชั้นนำ และแพลตฟอร์มการประมวลผลแบบใหม่ ซึ่งจะทำให้อินเทลอยู่ในตำแหน่งที่ดีในการกำหนดอนาคตของระบบโมบายล์คอมพิวติ้งและ Internet of Things” เจมส์ กล่าว

 

โปรเซสเซอร์ อะตอม ใหม่ และแพลตฟอร์มการสื่อสารแบบ LTE-Advanced

 

อินเทลเปิดตัวอินเทลอะตอมโปรเซสเซอร์ Z34802.13GHz (เมอร์ริฟิลด์) ที่มอบความผสมผสานในอุดมคติ ทั้งรวดเร็ว ทำงานอย่างชาญฉลาด และมีอายุแบตเตอรี่ยาวนานสำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตแอนดรอยด์ ซิสเต็มออนชิป (SoC) ที่พร้อมใช้งานแบบ 64 บิต มอบประสิทธิภาพระบบประมวลผลที่ดีที่สุดในระดับสำหรับกลุ่มเมนสตรีมและกลุ่มที่เน้นสมรรถนะ และทำงานได้เหนือชั้นกว่าคู่แข่งในแอพพลิเคชั่นที่เน้นการประมวลผล เว็บแอพพลิเคชั่น และการทำงานตัดต่อมีเดียที่ไม่ซับซ้อนนัก เมอร์ริฟิลด์ยังมีอายุแบตเตอรี่ที่ยาวนานที่สุดอีกด้วย

 

โปรเซสเซอร์ตัวใหม่ของอินเทล พัฒนามาจากสถาปัตยกรรม ซิลเวอร์มอนท์ 22 นาโนเมตร มีจุดเด่นคือ ใช้กราฟิกคอร์ PowerVR Series 6 ซึ่งเป็นทรัพย์สินทางปัญญาจาก Imagination Technologies และออกแบบมาสำหรับให้จับคู่ได้อย่างง่ายดายกับ อินเทล XMM 7160 LTE แพลตฟอร์ม เมอร์ริฟิลด์เป็นอะตอม SoC ตัวแรกที่มี Intel Integrated Sensor Solution ซึ่งจัดการเซนเซอร์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อทำให้แอพพลิเคชั่นต่างๆ ทำงานได้อย่างชาญฉลาดและจัดเตรียมคอนเทนท์ให้เหมาะกับการใช้งานในขณะนั้นแม้ว่าอุปกรณ์อยู่ในสถานะประหยัดพลังงาน อินเทลคาดว่าอุปกรณ์ที่ใช้งานเมอร์ริฟิลด์จากโออีเอ็มต่างๆ จะเริ่มเปิดตัวในช่วงไตรมาสที่สองนี้

 

เจมส์ กล่าวว่า โปรเซสเซอร์อินเทลอะตอมทั้งหมดในปัจจุบันรองรับประสบการณ์ประมวลผลแบบ 64 บิต ทั้งนี้ การประมวลผลแบบ 64 บิต กำลังย้ายจากคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะไปเป็นอุปกรณ์โมบายล์ อินเทลรู้จักการประมวลผลแบบ 64 บิต และเราเป็นเพียงบริษัทเดียวที่นำส่งโปรเซสเซอร์แบบ 64 บิตสำหรับแอนดรอยด์ในปัจจุบัน นอกจานี้ อินเทลยังเป็นผู้จัดหาเคอร์เนลของแอนดรอยด์แบบ 64 บิต ดังนั้น ลูกค้าที่เลือกอินเทลอะตอมจึงได้รับพื้นฐานที่พร้อมใช้งานสำหรับประสบการณ์ในรูปแบบแอนดรอยด์แบบ 64 บิต ในขณะที่ระบบปฏิบัติการและแอพพลิเคชั่นกำลังได้รับการพัฒนาขึ้นไป

 

อินเทลเปิดเผยข้อมูลใหม่เกี่ยวกับโปรเซสเซอร์ อะตอม 64 บิต เจนเนอเรชั่นถัดไป มีชื่อรหัสว่า“Moorefield” (มัวร์ฟิลด์) สำหรับอุปกรณ์โมบายล์ล์ ซึ่งคาดว่าจะออกจำหน่ายในครึ่งปีหลัง “Moorefield” พัฒนามาจากฟีเจอร์ของเมอร์ริฟิลด์โดยเพิ่มสถาปัตยกรรมแบบอินเทล Intel Architecture (IA) เข้าไปสองส่วนสำหรับระบบการประมวลผลที่ทำงานได้สูงสุด 2.3 GHz และจีพียูที่พัฒนาและรองรับเมมโมรี่ที่เร็วกว่า

 

“Moorefield” ได้รับการพัฒนาให้ทำงานได้เต็มความสามารถสำหรับอินเทล XMM 726 0แพลตฟอร์ม LTE ปี 2014 ที่บริษัทฯ ได้เปิดตัว

 

มอบประสบการณ์ใช้งานอุปกรณ์โมบายล์อย่างปลอดภัย และการขยายการใช้งานแอพฯ แอนดรอยด์บนอินเทล อะตอม โปรเซสเซอร์

 

อินเทลเป็นผู้นำในความพยายามที่จะปกป้องอุปกรณ์โมบายล์ในปัจจุบันด้วยโซลูชั่นป้องกันข้อมูลและอุปกรณ์อันเป็นเอกลักษณ์ของ Intel Security และ  McAfee โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Intel Device Protection Technology (Intel DPT) ที่ป้องกันผู้บริโภคจากมัลแวร์ และช่วยให้ลูกค้าองค์กรสามารถแยกข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลองค์กรได้บนอุปกรณ์แอนดรอยด์ที่ใช้เทคโนโลยีของอินเทล ผู้ให้บริการการจัดการอุปกรณ์โมบายล์ชั้นนำ เช่น AirWatch Citrix และ McAfee จะนำประสิทธิภาพในการจัดการที่ขยายครอบคลุมอุปกรณ์ต่างๆ ด้วย Intel DPT เข้าสู่ตลาดในปีนี้ โดยอินเทลคาดว่าแท็บเล็ตที่มี Intel DPT จะเริ่มจัดส่งในปีนี้จากโออีเอ็มชั้นนำ เช่น เดล เป็นต้น

 

เจมส์ยังได้เผยโฉมฟีเจอร์ของระบบ McAfee Mobile Security เต็มรูปแบบโดยไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับอุปกรณ์โมบายล์บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ซึ่งรวมคุณสมบัติการปกป้องที่ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น และเป็นครั้งแรกที่ขยายระบบความปลอดภัยสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่ใช้เทคโนโลยีจากอินเทล และปลดปล่อยขีดจำกัดในการรักษาความปลอดภัยในอุปกรณ์ที่ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังของอินเทล ทำให้เป็นโซลูชั่นที่ไม่มีค่าใช้จ่ายที่ครอบคลุมที่สุดสำหรับผู้บริโภคในตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง McAfee Mobile Security แบบฟรีที่ได้รวมเอา แอนติ-ไวรัส ระบบการป้องกันแอพฯ ระบบการป้องกันเว็บ และระบบคัดกรองสายเรียกเข้าหรือ SMS นอกจากที่มีระบบกันขโมย และระบบสำรองข้อมูลสำหรับรายชื่อผู้ติดต่อในเครื่อง

 

ในความพยายามที่จะกระตุ้นการพัฒนาและการมีแอพพลิเคชั่นแอนดรอยด์ให้เลือกใช้สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีอินเทล อินเทลได้ประกาศเปิดตัว Intel Integrated Native Developer Experience ตัวใหม่ ในฐานะเครื่องมือที่ทำให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาแอพฯ ที่พัฒนาขึ้นสำหรับอุปกรณ์แอนดรอยด์ นอกจากนี้ อินเทลยังได้แนะนำ Intel System Studio 2014 สำหรับการพัฒนาแอพฯ ที่ฝังในอุปกรณ์โมบายล์ และเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาแอพฯ รวมถึง Intel XDK HTML5 ซึ่งจะช่วยให้นักพัฒนาแอพทำงานได้ง่ายและย่นระยะเวลาตั้งแต่การผลิตไปจนถึงการวางจำหน่ายของนวัตกรรมแอพโมบายล์ที่เป็นคอนเทนต์แบบเว็บและไฮบริด ซึ่งทำงานได้เร็วและดีขึ้น

 

ขยายการมีส่วนร่วมของลูกค้าเพื่อกระตุ้นการผลิตอุปกรณ์โมบายล์ที่ใช้เทคโนโลยีของอินเทล

 

จากสัญญาณการขยายตัวของแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนที่ใช้อินเทล อะตอม โปรเซสเซอร์ และการเชื่อมต่อโดยอินเทล คอมมูนิเคชั่นส์ บริษัทฯ จึงประกาศถึงข้อตกลงใหม่ที่มีระยะเวลาหลายปีกับผู้ผลิตอุปกรณ์ชั้นนำสำหรับอุปกรณ์โมบายล์ที่ใช้เทคโนโลยีของอินเทล

 

อินเทลและเลอโนโวประกาศแผนที่จะแนะนำอุปกรณ์โมบายล์ที่ใช้เทคโนโลยีอินเทลในปี 2014 ทั้งสองบริษัทจะทุ่มเททรัพยากรด้านวิศวกรรมเพื่อมอบประสบการณ์ที่โดดเด่นทั้งในรูปแบบสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่หลากหลายไปจนถึงกลุ่มตลาดที่เน้นสมรรถนะการใช้งาน เลอโนโวกล่าวว่าบริษัทวางแผนที่จะรวมเอาการเชื่อมต่อแบบอินเทล LTE เข้าไว้ในอัลตร้าบุ๊ก และดีไซน์มัลติโหมดประเภทต่างๆ

 

ปีเตอร์ ฮอร์เทนเซียส ประธานเจ้าหน้าที่ด้านเทคโนโลยีของเลอโนโว กล่าวว่า“เรามีประวัติศาสตร์การทำงานร่วมกับอินเทลมายาวนาน ในการนำประสบการณ์การประมวลผลที่น่าประทับใจมาสู่ตลาดด้วยผลิตภัณฑ์อย่างสมาร์ทโฟน K900 ของเรา แล็บท็อป Yoga แบบมัลติโหมด แท็บเล็ต MIIX 2 และ ThinkPad 8 พวกเรามุ่งมั่นในการเติบโตอย่างแข็งแกร่งไปด้วยกัน ด้วยการมอบประสบการณ์ใช้งานอุปกรณ์โมบายล์ที่น่าตื่นเต้นจากสมาร์ทโฟนที่มีสไตล์ไปจนถึงแท็บเล็ตที่มีประสิทธิภาพการทำงานสูงด้วยขุมพลังจากอินเทล”

 

นอกจากนี้ เอซุสประกาศว่าจะนำพอร์ตโฟลิโอเต็มรูปแบบของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่ใช้อินเทลออกสู่ตลาดปีนี้ เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทแนะนำ ZenFone (เซนโฟน) ไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ของสมาร์ทโฟน และแพดโฟน มินิ ที่เป็นเอกลักษณ์ โดยอุปกรณ์ทั้งคู่ใช้โปรเซสเซอร์และแพลตฟอร์มการสื่อสารของอินเทล และที่งาน Mobile World Congress เอซุสเผยโฉม ASUS Fonepad 7 LTE (ME3762CL) ที่ใช้อินเทล อะตอม โปรเซสเซอร์และการเชื่อมต่อของอินเทล LTE

 

เดลล์และอินเทลมุ่งขยายความร่วมมือระหว่างกันเพื่อรังสรรค์แท็บเล็ตที่มีเทคโนโลยี Dell Venue ตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงของปีที่แล้ว นอกจากนี้ แท็บเล็ตจากเดลล์ที่ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังจากอินเทลจะสามารถรองรับระบบปฏิบัติการได้ทั้งแอนดรอยด์และวินโดว์ส

 

สำหรับฟอกซ์คอนน์และอินเทลกำลังร่วมมือกันขับเคลื่อนความพร้อมในการใช้งานระดับโลกของแท็บเล็ตแอนดรอยด์ที่ใช้เทคโนโลยีอินเทลที่มีคุณภาพสูงในราคาที่สามารถเป็นเจ้าของได้ อินเทลจะจัดหาโปรเซสเซอร์และแพลตฟอร์มการสื่อสารสำหรับผลิตภัณฑ์ของฟอกซ์คอนน์ที่หลากหลาย โดยเริ่มจากแท็บเล็ตในปีนี้

 

การเปลี่ยนโฉมเครือข่ายไร้สาย : การขับเคลื่อน Internet of Things

 

ความนิยมของอุปกรณ์เคลื่อนที่และการเติบโตอย่างรวดเร็วของ Internet of Things กำลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างพื้นฐานระบบเครือข่ายเพื่อจะรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการเชื่อมต่อที่มากขึ้นและข้อมูลแบบเรียลไทม์

 

อินเทลกำลังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้โดยการมอบฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ที่เป็นมาตรฐานเพื่อนำไปใช้กับมาตรฐานแบบเปิดและคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์เพื่อช่วยลดต้นทุน ขณะเดียวกันก็กระตุ้นการให้บริการใหม่ๆ ความสามารถในด้านต่างๆ และโมเดลรายได้สำหรับผู้ให้บริการ

 

ในความพยายามที่จะนำประโยชน์ของวิธีมาตรฐานมาสู่เครือข่ายการสื่อสาร ซึ่งสอดคล้องกับงานของอินเทลในศูนย์ข้อมูลและคลาวด์ อินเทลประกาศถึงการเป็นพันธมิตรกับ อัลคาเทล-ลูเซ่น และ ซิสโก้ เพื่อกระตุ้นเทคโนโลยี network function virtualization (NFV) และ software defined network (SDN) โดยการทำงานที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดบนสถาปัตยกรรมอินเทล ผู้ให้บริการจะได้รับเครือข่ายที่เร็วและยืดหยุ่นกว่า ซึ่งทำให้ผู้ให้บริการให้บริการใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว

 

เจมส์ยังได้เน้นถึงความพยายามของอินเทลที่ร่วมกับผู้ปฏิบัติการระดับโลก เช่น China Mobile, SK Telecom และ Telefonica ที่สาธิตให้เห็นถึงประโยชน์ของ NFV และ SDN สำหรับการช่วยให้บริการแบบการคาดเดาว่าขณะนี้ผู้ใช้กำลังทำอะไรอยู่เพื่อจัดเตรียมคอนเทนท์ที่เหมาะกับผู้ใช้ในขณะนั้น และปรับให้เข้ากับผู้ใช้แต่ละบุคคล ปรับปรุงการใช้งานทรัพยากร และทำให้การติดตั้งและอัพเกรดซอฟท์แวร์เป็นเรื่องง่าย