IT & SOFTWARE

ACER โหมตลาดสมาร์ทโฟน เน้นทำราคาถูก ตั้งเป้าทะลุล้านเครื่องในปีนี้
POSTED ON 02/02/2557


 

ข่าวไอที (IT News) - นายนิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ รองผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดไอทีปีนี้คงหดตัวจากเดิมไม่มาก หรือราว 2% เนื่องจากปี 2556 ที่ผ่านมาเป็นปีที่หดตัวมากที่สุด ตั้งแต่เริ่มต้นอุตสาหกรรม มีมูลค่าลดลงจากปี 2555 กว่า 20% จากยอดขายคอมพิวเตอร์ 3.7 ล้านเครื่อง เหลือ 3.1 ล้านเครื่อง และปลายปียังมีปัจจัยจากสถานการณ์การเมืองหลังได้รับผลกระทบจากโครงการรถคันแรกต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี

 

สำหรับโน้ตบุ๊กมียอดขายรวมลดลง 25% เทียบปี 2555 จาก 2 ล้านเครื่อง เหลือ 1.5 ล้านเครื่อง แต่เดสก์ทอปไม่ลดลง เนื่องจากการซื้อขายส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มองค์กรที่มีการซื้อประจำ และปีนี้ก็คงไม่ได้ลดลงมากนัก เชื่อว่าครึ่งปีเหตุการณ์จะสงบ ทำให้ความต้องการซื้อกลับมา

 

"ปีที่แล้วเป็นปีที่แย่ที่สุด เพราะปัจจัยลบทุกอย่างมาเจอกัน ทำให้ผู้ผลิตและร้านค้าปลีกไอทีต่างต้องหาวิธีแก้ไขสถานการณ์กันอย่างหนัก ทั้งบริหารสต็อก, การจัดวางหน้าร้าน และหันไปขายสมาร์ทดีไวซ์เพื่อชดเชยรายได้ที่หายไป ขณะที่อัลตราบุ๊กไม่ตอบโจทย์การขายเพราะราคาสูง การซื้อแท็บเลตเพื่อทำงานคู่กับสมาร์ทโฟนน่าจะคุ้มค่ากว่า ปีนี้ทุกค่ายจึงเน้นไปที่โน้ตบุ๊กสเป็กสูง เช่น คอร์ไอ 5-7, จอทัชสกรีน ราคา 2 หมื่นบาทขึ้นไป" นายนิธิพัทธ์ กล่าว

 

สำหรับตลาดรวมแท็บเลตยังมีการเติบโต โดยตลาดนี้แบ่งได้ 2 ประเภท คือ แท็บเลตวินโดวส์ และแท็บเลตแอนดรอยด์ และไอโอเอส โดยปีที่ผ่านมาประเภทแรกมียอดขายรวมไม่ถึงหลักแสนเครื่อง แต่ปีนี้จะเพิ่มเป็น 3 แสนเครื่อง ราคา 1.5 หมื่นบาทขึ้นไป ทดแทนความต้องการซื้อโน้ตบุ๊กราคาถูก ตอบโจทย์การพกพาเหมือนอัลตราบุ๊ก ส่วนแท็บเลตแอนดรอยด์ยังไม่มีจำนวนแน่ชัด แต่ยอดขายอยู่ที่ 5 หมื่นเครื่องต่อเดือน ราคา 5 พันบาทขึ้นไป กลุ่มสินค้าราคา 3 พันบาทที่ตีตลาดช่วงต้นปีที่แล้วจะค่อยๆ หายไป

 

ด้านตลาดรวมโทรศัพท์มือถือปีที่ผ่านมามียอดขาย 20 ล้านเครื่อง สมาร์ทโฟนครึ่งหนึ่ง แต่ปีนี้อาจมากกว่า 20 ล้านเครื่อง เป็นสมาร์ทโฟน 12-15 ล้านเครื่อง จากการผลักดันของโอเปอเรเตอร์รวมถึงราคาที่ถูกลง ที่ผ่านมาเอเซอร์มียอดขายกว่า 3 แสนเครื่อง จากการร่วมมือกับเอไอเอส

 

"ปีนี้ตั้งเป้าสมาร์ทโฟนไว้ที่ 1 ล้านเครื่อง แผนการขายร่วมกับโอเปอเรเตอร์น่าจะตีตลาดได้ ราคาของเราไม่สูง ทำให้ใคร ก็มาใช้งานได้ จะทยอยเปิดตัวรุ่นใหม่ครอบคลุมทุกขนาดหน้าจอ ส่วนโน้ตบุ๊กก็ยังไม่ทิ้งเพราะเป็นรายได้หลัก การทำตลาดจะใช้งบราว 2% ของรายได้" นายนิธิพัทธ์ กล่าว

 

ปัจจุบัน บริษัทฯ มีส่วนแบ่งตลาดรวม 19% เป็นอันดับ 1 มีส่วนแบ่งโน้ตบุ๊ก 28% แท็บเลตวินโดวส์ 45% เป็นอันดับ 1 ในตลาด ขณะที่สัดส่วนรายได้ปีนี้จะเปลี่ยนจากปีที่แล้ว โน้ตบุ๊ก 70% เดสก์ทอป 20% สมาร์ทดีไวซ์ไม่ถึง 5% และอื่นๆ มาเป็นโน้ตบุ๊ก 60% เดสก์ทอป 20% สมาร์ทดีไวซ์ 15% และอื่นๆ