IT & SOFTWARE

System Platform 2017 สร้างมาตรฐานใหม่แห่งความเป็นเลิศด้านการผลิต
POSTED ON 04/07/2560


Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics

 

 

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เปิดตัว System Platform 2017 ภายใต้แบรนด์ Wonderware สร้างมาตรฐานใหม่สำหรับความเป็นเลิศด้านการผลิตสำหรับองค์กรภาคอุตสาหกรรม โดยนำ IIoT (Industrial Internet of Things) สำหรับภาคอุตสาหกรรมมาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้รวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น โดยแพลตฟอร์มระบบงานแบบเน็กซ์เจนนี้มี User Interface ที่ใช้งานง่าย แสดงข้อมูลทางด้านกราฟิกได้ดียิ่งขึ้น และให้ระบบ Navigation ที่ฉลาดยิ่งขึ้น โดยความสามารถเหล่านี้ได้ถูกผสานรวมอยู่ในสายผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์สำหรับอุตสาหกรรมของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ช่วยขยายขีดความสามารถให้กับทั้งโซลูชั่นใหม่และโซลูช่นเดิมที่มีอยู่ในแง่มุมที่เชื่อมโยงการทำงานเข้ากับส่วนงานวิศวกรรม ส่วนปฏิบัติการ ในสายงานเกี่ยวข้องที่สร้างคุณค่าให้กับอุตสาหกรรม (Industry Value Chain) ผ่านระบบดิจิทัลได้อย่างราบรื่น

 

ทั้งนี้ System Platform 2017 ให้ความสามารถใหม่ที่โดดเด่นสำหรับผู้พัฒนาระบบและผู้ใช้แพลตฟอร์มระบบงานชั้นนำในอุตสาหกรรมขององค์กร ซึ่งปัจจุบันมีการใช้งานอยู่ในโรงงานทั่วโลกมากกว่า 100,000 แห่ง รวมถึงคู่ค้าและพันธมิตรที่ให้บริการด้านการติดตั้งกว่า 4,000 ราย และผู้พัฒนาระบบจำนวน 160,000 ราย

 

บริษัทในภาคอุตสาหกรรมกำลังถูกท้าทายด้วยข้อมูลจำนวนมหาศาลที่รวบรวมมาจาก IoT ในภาคอุตสาหกรรม หรือ IIoT (Industrial Internet of Things) เพื่อนำมาใช้สนับสนุนการตัดสินใจได้ครบทุกมุมมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันระบบเทคโนโลยีส่วนปฏิบัติการ (OT-Operational Technology) ที่ใช้รองรับแอพพลิเคชั่นด้านอุตสาหกรรมก็ต้องมีการปรับปรุงเพื่อให้แสดงผลลัพธ์ข้อมูลเป็นภาพได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งต้องผสานการทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่นด้านไอทีได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นกัน

 

นายนอร์ม ธอร์ลักสัน รองประธาน HMI & Supervisory Software หน่วยธุรกิจด้านอุตสาหกรรม ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค กล่าวว่า “System Platform 2017 เสนอแนวทางใหม่ที่เป็นการปฏิวัติวิธีการสร้างแอปพลิเคชันอุตสาหกรรมและเนื้อหาที่นำกลับมาใช้ได้อีก คล้าย ๆ กับวิธีการพัฒนาเว็บเพจสมัยใหม่ ทั้งนี้ งานวิศวกรรมดังกล่าวสามารถทำได้โดยไม่ต้องปรับแต่งระบบและไม่ต้องเขียนสคริปต์ขึ้นใหม่แต่อย่างใด และยังให้การทำงานที่ผสานรวมกับทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์อุตสาหกรรมที่หลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งความสามารถดังกล่าวนับว่าเป็นการสร้างความเป็นเลิศด้านวิศวกรรมและการดำเนินงานโดยที่ไม่ต้องเพิ่มต้นทุนในการเป็นเจ้าของ”

 

System Platform 2017 ให้โมเดลการใช้ซอฟต์แวร์แบบใหม่ที่ให้ความเรียบง่ายแก่ผู้ใช้งาน อีกทั้งยังสามารถใช้คำสั่งได้ง่าย (Top Directives) ให้โมเดลที่นำมาใช้ได้อย่างยืดหยุ่น ช่วยสร้างคุณค่าให้กับธุรกิจได้เร็วขึ้น ช่วยให้บริษัทในภาคอุตสาหกรรมขยายขีดความสามารถในการดำเนินงานได้เร็วขึ้น อีกทั้งช่วยเร่งเวลาให้สามารถนำเทคโนโลยีโมบิลิตี้ และคลาวด์รวมถึง IoT ใหม่สำหรับภาคอุตสาหกรรมมาใช้ได้อย่างรวดเร็ว

 

การเปิดตัวครั้งนี้ยังเป็นการนำเสนอ วิสัยทัศน์ด้าน EcoStruxure ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ในการมอบความสามารถด้านซอฟต์แวร์ และระบบวิเคราะห์ชั้นนำของอุตสาหกรรม เพื่อใช้เป็นกลยุทธ์ในการปฏิรูปไปสู่ดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

System Platform 2017 ภายใต้แบรนด์ Wonderware ให้ประโยชน์โดยสรุปดังต่อไปนี้

 

สร้างได้ง่าย (Easy to Build) – เป็นแพลตฟอร์มที่สร้างเพื่อวัตถุประสงค์ในการขยายขีดความสามารถสำหรับ Supervisor, SCADA, MES และการพัฒนาแอปพลิเคชัน IoT สำหรับอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นวิธีปฏิบัติที่ดีที่สุดที่ไม่ถูกจำกัดอยู่ในกรอบการทำงานแบบเดิม

 

ใช้งานง่าย (Easy to Use) – มี Visualization Client รุ่นเน็กซ์เจน ที่มาพร้อม User Interface อันทันสมัย สร้างขึ้นเฉพาะเพื่องานกราฟฟิกที่สมบูรณ์ ให้ประสิทธิภาพสูง

 

เป็นเจ้าของได้ง่าย (Easy to Own) – ด้วยวิธีการทำงานที่เป็นโมดูลมากขึ้น พร้อมทั้งมีการปรับปรุงการทำงานอย่างต่อเนื่อง จึงช่วยให้มั่นใจได้ 100% ว่าจะสามารถทำงานร่วมกับระบบอื่น ๆ ก่อนหน้าที่อยู่ภายใต้ Wonderware ได้ดีเช่นกัน ช่วยลดการดาวน์ไทม์ที่เกี่ยวข้องกับการซ่อมบำรุงแอปพลิเคชันหรือการเปลี่ยนแปลงในส่วนของระบบการผลิต อีกทั้งช่วยลดต้นทุนการเป็นเจ้าของ

 

“System Platform เป็นองค์ประกอบสำคัญของ EcoStruxure ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค จึงช่วยเพิ่มความสามารถให้กับบริษัทที่กำลังอยู่ในช่วงของการเดินทางไปสู่การปฏิรูปดิจิทัล ช่วยเปลี่ยนโฉมธุรกิจให้มีความคล่องตัวมากขึ้นและตอบสนองได้เร็วขึ้น ในระหว่างที่ลงทุนในระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบดิจิทัล” นายธอร์ลักสัน กล่าว

 

EcoStruxure คือสถาปัตยกรรมระบบเปิดของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ที่ให้ความสามารถในการทำงานร่วมกับ IoT เพื่อมอบคุณค่าที่เหนือชั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ ให้ประสิทธิภาพ ให้ความสามารถในการสร้างความยั่งยืน และความสามารถในการเชื่อมต่อสำหรับลูกค้า โดย EcoStruxure ใช้เทคโนโลยี IoT โมบิลิตี้ การตรวจจับ (Sensing) คลาวด์ ระบบวิเคราะห์ และระบบรักษาความปลอดภัยบนไซเบอร์ เพื่อนำเสนอนวัตกรรมในทุกระดับ (Innovation at Every Level) ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมต่อกัน, การควบคุมเอดจ์ และแอพพลิเคชั่น ระบบวิเคราะห์ รวมถึงการบริการ  EcoStruxure ถูกนำมาใช้ในการติดตั้งกว่า 450,000 โครงการ ให้การสนับสนุนผู้วางระบบกว่า 9,000 ราย และใช้ในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์กว่า 1,000 ล้านอุปกรณ์