IT & SOFTWARE

อนาคตของ "ดาต้าเซ็นเตอร์" กับการเติบโตของข้อมูลที่เพิ่มขึ้น
POSTED ON 22/08/2557


ข่าวไอที - โลกธุรกิจทุกวันนี้ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ดังนั้น การมีโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมและอยู่ในตำแหน่งที่สามารถรับมือกับปริมาณข้อมูลมหาศาลได้ จึงเป็นเรื่องสำคัญ ดาต้าเซ็นเตอร์มีบทบาทสำคัญในการจัดการข้อมูลของบริษัททุกขนาด มีบทบาทในการสร้างความมั่นใจว่าข้อมูลจำนวนมากที่จำเป็นในการนำองค์กรสู่ความสำเร็จจะได้รับการประมวลผลและจัดเก็บไว้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

เทรนด์ของบิ๊กดาต้ายังคงเป็นตัวผลักดันอย่างต่อเนื่องให้ดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งดูเหมือนจะเติบโตอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม การกำหนดอัตราการเติบโตของข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีข้อสงสัยว่าแล้วดาต้าเซ็นเตอร์ในอนาคตจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร

 

นอกเหนือจากปัจจัยเหล่านี้แล้ว องค์กรยังมีข้อกังวลอื่นๆ เช่น พื้นที่ทางกายภาพที่จำกัด และความจำเป็นที่ต้องลดค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะกำหนดว่าดาต้าเซ็นเตอร์ในอนาคตจะมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร ทั้งนี้นักวิเคราะห์ได้เริ่มศึกษาข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับทิศทางที่เป็นแนวโน้มต่างๆ แล้ว

 

ซอฟต์แวร์จะเป็นตัวขับเคลื่อนดาต้าเซ็นเตอร์

 

ปัญหาที่เพิ่มขึ้นในการทำธุรกิจทุกวันนี้ คือ พลังของการใช้คอมพิวเตอร์ในดาต้าเซ็นเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดและเร็วที่สุดบางแห่งของโลกเป็นสิ่งที่น่าทึ่งมาก แต่สำหรับองค์กรส่วนใหญ่ การควบคุมพลังนี้และการนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในองค์กรเป็นเรื่องที่อยู่นอกขอบเขตของความเป็นไปได้ ดังนั้น มีวิธีการใดบ้างในปัจจุบันที่สามารถทำได้ เพื่อจะใช้ประโยชน์จากการประมวลผลข้อมูลได้ด้วยทรัพยากรที่จำกัด

 

คำตอบอาจจะอยู่ในดาต้าเซ็นเตอร์ที่ขับเคลื่อนโดยแอพพลิเคชั่นที่เป็นซอฟต์แวร์ บทความจาก Wikibon เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2557 ที่ผ่านมา ได้คาดการณ์ว่าธุรกิจต่างๆ ในอนาคตจะดำเนินงานด้วยดาต้าเซ็นเตอร์ที่กำหนดโดยซอฟต์แวร์ ข้อมูลจาก Wikibon ยังระบุอีกว่าดาต้าเซ็นเตอร์ที่ขับเคลื่อนโดยซอฟต์แวร์เหล่านี้จะมีความยืดหยุ่นแบบคาดไม่ถึง มีความปลอดภัยและสามารถปรับขยายได้อย่างไม่เคยมีมาก่อน เพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลให้กับองค์กร และทำให้มั่นใจได้ว่าดาต้าเซ็นเตอร์จะสามารถเติบโตไปพร้อมกับองค์กร

 

คลาวด์จะเป็นตัวขับเคลื่อนดาต้าเซ็นเตอร์

 

คลาวด์คอมพิวติ้ง วางสถานะตัวเองเป็นผู้เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศในทุกด้าน โดยจากผลการสำรวจ 2013 Future of Cloud Computing จาก North Bridge Venture Partners and GigaOM พบว่า เกือบ 2 ใน 3 ขององค์กรในปัจจุบัน (63%) ใช้งาน Software-as-a-Service ซึ่งเพิ่มขึ้น 15% จากปีที่ผ่านมา จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า คลาวด์จะเป็นฟีเจอร์สำคัญของดาต้าเซ็นเตอร์ในอนาคต

 

สถานที่ตั้งของดาต้าเซ็นเตอร์จะมีมากกว่าหนึ่งแห่ง

 

เมื่อการที่ซอฟต์แวร์และคลาวด์คอมพิวติ้งมีความสำคัญต่อดาต้าเซ็นเตอร์เพิ่มมากขึ้น การ์ทเนอร์คาดการณ์ว่าสถานที่ตั้งของดาต้าเซ็นเตอร์จะกลายเป็นเสมือนขาดความเชื่อมโยงมากขึ้น และจะเกิดสถานที่ตั้งดาต้าเซ็นเตอร์หลากหลายแบบให้เราได้พิจารณาใช้กันในอนาคต

 

ทั้งนี้ นอกจากสถานที่ตั้งทางกายภาพแล้ว ยังมีสถานที่ตั้งตามกฎหมาย (กำหนดโดยหน่วยงานตามกฎหมายที่ควบคุมด้านดาต้า รวมทั้งองค์กรเองด้วย) และสถานที่ตั้งทางโลจิคัล (กำหนดโดยการพิจารณาด้านโลจิสติก ว่าข้อมูลสำคัญส่วนใหญ่ควรจะอยู่ที่ใด) อย่างไรก็ตาม นายคาร์สเตน แคสเปอร์ รองประธานฝ่ายวิจัยของการ์ทเนอร์ เตือนว่าไม่ควรแยกใช้งานสถานที่ตั้งด้านต่างๆ เหล่านี้ที่ดูเหมือนจะมีความแตกต่างกัน

 

"องค์กรจะใช้สถานที่หลายๆ แห่งด้วยรูปแบบการให้บริการที่หลากหลาย" ด้วยแนวคิดดังกล่าวนี้ จึงเป็นเรื่องสำคัญมากอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ในการพิจารณาใช้ดาต้าเซ็นเตอร์แบบกายภาพ ตามกฎหมาย และโลจิคัลร่วมกัน แทนที่จะใช้แยกกัน การเติบโตของคลาวด์และดาต้าเซ็นเตอร์ที่ขับเคลื่อนโดยซอฟต์แวร์ซึ่งใช้ประโยชน์จากกระบวนการของโอเพ่นซอร์ส เป็นแนวโน้มที่จะช่วยให้แนวคิดนี้เป็นจริงได้