Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics

ฟอร์ด มอเตอร์ บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐอเมริกา ประกาศว่า ในปีนี้บริษัทฯ จะปลดพนักงานประเภท white-collar หรือที่ทำงานในออฟฟิศออก 10% จากในอเมริกาเหนือและเอเชีย เพื่อเพิ่มกำไรของบริษัทฯ โดยจะยื่นข้อเสนอสำหรับการเกษียณอายุก่อนกำหนดโดยสมัครใจ ซึ่งมุ่งหวังว่าจะสามารถลดจำนวนพนักงานได้ 1,400 คน ภายในสิ้นเดือน ก.ย.2560 นี้

ทั้งนี้ ข้อเสนอดังกล่าวจะมีการเสนอต่อพนักงานรวม 15,300 คน จากพนักงานที่มีอยู่ทั้งหมด 202,000 คนทั่วโลก แบ่งเป็น ในสหรัฐฯ 9,600 คน, เม็กซิโก 1,000 คน, แคนาดา 600 คน และในเอเชีย 4,141 คน โดยฟอร์ดหวังว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้โดยไม่ต้องปลดพนักงานที่ไม่สมัครใจออก

ขณะที่เมื่อสัปดาห์ก่อน โรงงานฟอร์ดในเมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ ได้มีการประกาศเลิกจ้างพนักงานไปแล้วถึง 130 ตำแหน่ง โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป เหตุจากความซบเซาในตลาดรถกระบะและรถบรรทุก

นายไมค์ โมแรน (Mike Moran) โฆษกของฟอร์ด มอเตอร์ กล่าวว่า “ฟอร์ดพยายามที่จะตัดลดค่าใช้จ่ายที่สิ้นเปลืองออก และมุ่งสู่การเป็นบริษัทที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ด้วยการลงทุนอย่างเข้มข้นแต่รอบคอบในโอกาสเกิดใหม่ รวมถึงการมุ่งทำกำไรในธุรกิจหลัก”

ปัจจุบัน ฟอร์ดกำลังเผชิญกับปัญหายอดขายที่ลดลง หลังจากเคยเติบโตอย่างต่อเนื่องมาหลายปี โดยในเดือน เม.ย.2560 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มียอดขายรถรวมทั้งสิ้น 214,695 คัน ซึ่งลดลงถึง 7.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน