HOT

เจ้าของวินด์ฟาร์มอีสานเครียดหนัก หลังเทพสถิตฯโดนศาลสั่งยกเลิกเช่าที่ดิน ส.ป.ก.
POSTED ON 08/02/2560


Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics

 

 

ข่าวอุตสาหกรรม - เมื่อวันที่ 31 ม.ค.2560 ที่ผ่านมา ศาลปกครองสูงสุดได้นัดอ่านคำพิพากษา คดีที่คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดชัยภูมิ อนุญาตให้บริษัท เทพสถิต วินด์ฟาร์ม จำกัด เช่าที่ดิน ส.ป.ก.ใน ต.บ้านไร่ อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ เพื่อติดตั้งกังหันลมผลิตไฟฟ้า ซึ่งศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษายืนตามศาลปกครองกลางที่ได้อ่านคำพิพากษาไปก่อนหน้านี้แล้วเมื่อวันที่ 26 ม.ค.2560 ที่ผ่านมา โดยสั่งให้ยกเลิกสัญญาเช่าพื้นที่ดังกล่าวของบริษัท เทพสถิต วินด์ฟาร์ม จำกัด เพราะไม่ชอบด้วยกฎหมาย

      

ทั้งนี้ แม้ว่าพื้นที่ดังกล่าวจะได้รับมติอนุญาตจากคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดชัยภูมิมาตั้งแต่ปี 2552 ก็จริง แต่เนื่องจากการจัดสรรที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินให้บุคคลใดใช้เพื่อกิจการอื่นนั้นจะต้องสนับสนุนหรือเกี่ยวเนื่องกับวัตถุประสงค์ของการปฏิรูปที่ดิน และเกษตรกรจะต้องได้ประโยชน์โดยตรงเท่านั้น ซึ่งโครงการกังหันลมผลิตไฟฟ้านั้น แม้จะเป็นบริการสาธารณะให้ประโยชน์ต่อส่วนรวม แต่เป็นการผลิตไฟฟ้าเพื่อขายให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ถือเป็นกิจการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร ไม่ใช่กิจการที่เป็นการบริการหรือเกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของเกษตรกรในท้องที่โดยตรง ดังนั้น จึงถือว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเห็นควรให้ยกเลิกสัญญาเช่าพื้นที่ดังกล่าว

 

สำหรับข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท เทพสถิต วินด์ฟาร์ม จำกัด มีเงินทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท ซึ่งโครงการเทพสถิต วินด์ฟาร์ม เริ่มต้นจากการร่วมทุนระหว่าง บริษัท โปรเวทุม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และ บริษัท จีอี เอนเนอร์ยี่ จำกัด เพื่อผลิตไฟฟ้าด้วยกังหันลมใหญ่ที่สุดในอาเซียน โดยมีการทุ่มลงทุนไปแล้วกว่า 15,000 ล้านบาท

 

ด้าน นายสมปอง อินทร์ทอง เลขาธิการ สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เปิดเผยว่า กรณีดังกลว่าจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการรายอื่น ๆ ที่ขอดำเนินกิจการประเภทเดียวกันในพื้นที่ ส.ป.ก.หรือไม่นั้น คงต้องดูข้อเท็จจริงเป็นรายบริษัทว่ารายละเอียดของคำพิพากษากรณีของบริษัท เทพสถิต วินฟาร์ม จำกัด ไปตรงกับรายอื่น ๆ หรือไม่ ซึ่งขณะนี้มี 2 จังหวัดที่ผู้ประกอบการขอเช่าพื้นที่ ส.ป.ก.เพื่อติดตั้งกังหันลมผลิตไฟฟ้า ได้แก่ จ.ชัยภูมิ และ จ.นครราชสีมา โดยชัยภูมิมี 10 บริษัท ดำเนินการแล้ว 4 บริษัท กำลังดำเนินการอีก 6 บริษัท ส่วนนครราชสีมามี 7 บริษัท ดำเนินการแล้ว 2 บริษัท อยู่ระหว่างดำเนินการอีก 5 บริษัท

 

นายชำนาญ กลิ่นจันทน์ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า พื้นที่ ส.ป.ก.ในเขต จ.นครราชสีมา ได้ให้บริษัทเอกชน 7 ราย ประกอบด้วย (1) บริษัท เฟิร์ส โคราช วินด์ จำกัด, (2) บริษัท เค อาร์ ทู จำกัด, (3) บริษัท เทพารักษ์ วินด์ จำกัด, (4) บริษัท ทรอปิคอล วินด์ จำกัด, (5) บริษัท เค อาร์ เอส ทรี จำกัด, (6) บริษัท กฤษณา วินด์ พาวเวอร์ จำกัด และ (7) บริษัท เค อาร์ วัน จำกัด ดำเนินการเช่าพื้นที่จำนวน 285 แปลง เนื้อที่รวมกว่า 286 ไร่ ติดตั้งกังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้ามาตั้งแต่ปี พ.ศ.2553

 

โดยในแต่ละปี ส.ป.ก.มีรายได้จากค่าเช่าพื้นที่ดังกล่าวมากกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งค่าเช่าพื้นที่ดังกล่าวจะถูกนำไปให้กองทุนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และเงินของกองทุนฯ ก็จะถูกนำไปปล่อยเป็นสินเชื่อให้กับเกษตรกรได้กู้ยืมไปลงทุนประกอบอาชีพการเกษตร และนำไปซื้อที่ดินเพื่อนำไปจัดสรรให้กับผู้ไร้ที่ทำกิน นอกจากนี้ เงินบางส่วนก็นำไปพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในเขตปฏิรูปที่ดิน

 

ขณะที่ทางด้าน นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า จะชะลอการออกใบอนุญาตประกอบกิจการให้ผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม (Wind Farm) ที่ทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแล้ว 11 ราย กำลังการผลิตรวม 700 เมกะวัตต์ เพื่อรอผลตรวจสอบข้อเท็จจริงการเช่าใช้ที่ดินสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ก่อน ทั้งนี้ คาดว่าภายใน 1-2 สัปดาห์นี้จะสรุปได้ ส่วนที่จ่ายไฟฟ้าไปแล้ว 4 ราย 354 เมกะวัตต์ ต้องรอคำตัดสินจาก ส.ป.ก. ว่าเข้าข่ายถูกเพิกถอนใบอนุญาตหรือไม่

 

นายวีระพล ยังระบุด้วยว่า หากผู้ผลิตไฟฟ้าด้วยกังหันลมทุกรายที่เช่าพื้นที่ ส.ป.ก.ต้องยุติกิจการและยกเลิกการผลิตไฟฟ้า จะก่อให้เกิดความเสียหายมูลค่าสูงถึงราว 84,000-94,000 ล้านบาท แต่เชื่อมั่นว่าจะไม่กระทบสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนในแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP 2015) เนื่องจากขณะนี้มีการทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนแล้วกว่า 9,000 เมกะวัตต์ ทั้งที่กำหนดสัดส่วนรับซื้อไว้เพียง 16,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2579

 

ด้าน นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า ยังไงโครงการวินด์ฟาร์มก็ยังคงต้องเดินหน้าต่อ เพราะถูกกำหนดสัดส่วนใน PDP 2015 แล้ว แต่อาจต้องปรับเปลี่ยนพื้นที่ตั้งโครงการไปยังพื้นที่ที่ไม่ใช่ของ ส.ป.ก. ที่มีศักยภาพ และไม่ขัดต่อกฎหมาย ซึ่งพื้นที่ในภาคใต้และภาคอีสานก็ถือว่ามีความเป็นไปได้สูง