HOT

สถาบันเหล็กฯหนุนรัฐใช้เซฟการ์ดเหล็ก H-Beam เจืออัลลอย
POSTED ON 16/02/2560


Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics

 

 

นายวิโรจน์ โรจน์วัฒนชัย ผู้อำนวยการ สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย กล่าวแสดงความคิดเห็นต่อการบังคับใช้มาตรการปกป้องการนำเข้า (Safeguard) เหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อนเจืออัลลอย หน้าตัดรูปตัว H หรือ H-Beam เจืออัลลอยที่เพิ่มขึ้น ที่กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้ออกประกาศให้มีผลบังคับใช้เป็นเวลา 2 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค.2560 ที่ผ่านมาว่า เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการออกมาตรการดังกล่าวของภาครัฐ เนื่องจากจะเป็นการยับยั้งและช่วยลดความเสียหายจากการนำเข้าเหล็ก H-Beam เจืออัลลอย ซึ่งเป็นการสกัดกั้นเหล็กด้อยคุณภาพ โดยเฉพาะเหล็กเจือโบรอนซึ่งเป็นอัลลอยชนิดหนึ่ง เป็นการใช้การเจืออัลลอยที่ผิดวัตถุประสงค์ทางเทคนิค ไม่ให้เข้ามาสร้างความเสียหายและความเสี่ยงต่อความปลอดภัยในการก่อสร้างในประเทศ

 

“ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกได้เล็งเห็นถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น จึงได้มีมาตรการป้องกันการนำเข้าเหล็กเจืออัลลอยแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา อินเดีย ปากีสถาน อินโดนีเซีย เกาหลี เป็นต้น ที่ผ่านมา มีการส่งออก H-Beam เจืออัลลอยมายังประเทศไทยจำนวนมาก โดยไม่มีการจำหน่ายและใช้งานภายในประเทศผู้ส่งออกนั้นเลย แสดงให้เห็นว่าเหล็กเจืออัลลอยเป็นเหล็กที่ผลิตมาเพื่อประโยชน์ในการส่งออก หลบเลี่ยงพิกัดภาษีศุลกากร และไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า ทำให้รัฐสูญเสียรายได้จำนวนมาก รวมทั้งไม่ได้คำนึงความปลอดภัยในการใช้งานของผู้บริโภคชาวไทยแต่อย่างใด ดังนั้น การมีมาตรการ Safeguard จะเป็นการปกป้องคนไทยจากการใช้สินค้าที่มีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป” นายวิโรจน์ กล่าว

 

นอกจากนี้ ทางสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ก็ได้กำหนดให้เหล็ก H-Beam เจืออัลลอย เป็นเหล็กที่ไม่ได้คุณภาพมาตรฐาน ตาม มอก.1227-2558 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในเร็ว ๆ นี้