ข่าวอุตสาหกรรม 21 มิ.ย.2559 - นายนพดล ปิ่นสุภา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทผู้ผลิตแหล่งก๊าซธรรมชาติในพื้นที่พัฒนาร่วม ไทย-มาเลเซีย (เจดีเอ เอ-18) จะทำการซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซฯประจำปี เป็นระยะเวลา 12 วัน ระหว่างวันที่ 20-31 ส.ค.2559 ส่งผลให้ปริมาณก๊าซธรรมชาติในระบบจะหายไปประมาณ 420 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน

สำหรับปริมาณก๊าซฯที่หายไปนั้นแบ่งเป็นส่วนที่จัดส่งเข้าสู่ระบบท่อก๊าซฯในพื้นที่ภาคตะวันออก 190 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และส่วนที่จัดส่งไปเป็นเชื้อเพลิงในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างกับโรงไฟฟ้าจะนะ และสถานีจ่ายก๊าซเอ็นจีวีหลักจะนะ จ.สงขลา 230 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ทำให้โรงไฟฟ้าจะนะ จ.สงขลา ต้องหยุดใช้ก๊าซฯ และยังส่งผลให้ก๊าซ NGV ที่จะจ่ายให้แก่สถานีบริการฯในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี จ.นครศรีธรรมราช และ จ.สงขลา อาจมีปริมาณลดลงหรือไม่เพียงพอต่อความต้องการ  

อย่างไรก็ตาม ทาง ปตท.ได้เตรียมแผนรองรับสถานการณ์ดังกล่าวอย่างเต็มที่ ทั้งการจัดหาน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับโรงไฟฟ้าภาคใต้ การจัดหาก๊าซธรรมชาติจากแหล่งอื่น และก๊าซธรรมชาติเหลว พร้อมทั้งเตรียมขนส่งก๊าซเอ็นจีวีจากสถานีหลักอื่นๆ มาบรรเทาสถานการณ์ และเชื่อว่าแผนบริหารจัดการดังกล่าวจะทำให้พื้นที่ฝั่งตะวันออกของประเทศไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว

ทั้งนี้ ปตท. ได้วางแผนบริหารจัดการพลังงานร่วมกับกระทรวงพลังงาน คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยจะมีการเตรียมน้ำมันสำรอง ณ โรงไฟฟ้าจะนะ และโรงไฟฟ้ากระบี่ ให้เพียงพอตลอดช่วงการทำงานของผู้ผลิตก๊าซฯ พร้อมกันนี้ ปตท.ได้ขอความร่วมมือกับผู้ผลิตก๊าซฯรายอื่นๆ ให้หลีกเลี่ยงการทำงานที่มีผลกระทบต่อการจ่ายก๊าซฯ โดยผู้ผลิตก๊าซฯแจ้งว่าภายหลังการหยุดผลิตข้างต้น จะทยอยเพิ่มกำลังการผลิต คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 18 วัน การผลิตจึงจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในช่วงกลางเดือน ก.ค. 2559

Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics