HOT

ศาลล้มละลายสั่งพิทักษ์ทรัพย์นิคมฯสหรัตนนคร เหตุไม่ชำระหนี้
POSTED ON 27/04/2559


ข่าวอุตสาหกรรม 27 เม.ย.2559 – ประชาชาติธุรกิจ รายงานข่าวเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ศาลล้มละลายกลางได้ประกาศพิทักษ์ทรัพย์บริษัท สหรัตนนคร จำกัด และผู้บริหารนิคมสหรัตนนคร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เนื่องจากเจ้าหนี้รายใหญ่อย่างบริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ได้ร้องต่อศาลว่าไม่ได้รับการชำระหนี้จากบริษัท สหรัตนนคร จำกัด ในช่วงที่ผ่านมา

 

ผู้บริหารนิคมสหรัตนนคร ให้เหตุผลต่อกรณีดังกล่าวว่า เนื่องจากบริษัทฯได้รับผลกระทบจากนโยบายของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ที่ต้องการให้สร้างเขื่อนกั้นน้ำในช่วงที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 โดยเงินจะมาจาก 3 ส่วน คือ เงินลงทุนของผู้ประกอบการเอง เงินกู้ และเงินสนับสนุนแบบให้เปล่าจาก กนอ. แต่ กนอ.ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบเขื่อนจากที่แจ้งแบบไว้หลังจากที่ก่อสร้างไปแล้ว ทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินส่วนที่เหลือประมาณ 100 ล้านบาท ทำให้บริษัทฯต้องขาดสภาพคล่องทางการเงิน และไม่สามารถกู้เงินได้

 

นางสาวกฤตยาพร ทัพภะทัต รองผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์บริษัท สหรัตนนคร จำกัด แล้ว ขั้นตอนต่อไปทาง กนอ.จะยกเลิกสัญญาร่วมดำเนินการระหว่าง กนอ.และบริษัทฯต่อศาลล้มละลายกลาง หลังจากนั้นต้องยื่นเรื่องขอเข้าไปบริหารจัดการส่วนของระบบสาธารณูปโภคทั้งหมดภายในพื้นที่แทน

 

ล่าสุดเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ได้ให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติม โดยบริษัท สหรัตนนคร จำกัด ได้ยื่นเอกสารคัดค้านต่อเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์แล้ว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ได้สั่งให้ทั้ง กนอ.และบริษัท สหรัตนนคร จำกัด หารือกันนอกรอบเพิ่มเติม และต้องกลับมาชี้แจงในวันที่ 27 เม.ย.2559 นี้ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย  โดยคาดว่าจะพิจารณาตัดสินในวันนั้นเช่นกัน ซึ่ง กนอ.เตรียมที่จะชี้แจงต่อผู้ประกอบการในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนครที่มีอยู่ประมาณ 20 รายต่อไป

 

ในกรณีที่บริษัท สหรัตนนคร จำกัด ต้องการที่จะดำเนินการบริหารนิคมสหรัตนนครต่อนั้น จะต้องสามารถยืนยันได้ว่าจะไม่มีการทิ้งลูกค้าในพื้นที่ และต้องสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าในช่วงที่ยังไม่มีการพิจารณาชี้ขาดกรณีนี้

 

ขณะที่ทาง กนอ.ได้ดำเนินการติดต่อไปยังเทศบาล การไฟฟ้าฯ และการประปาฯในพื้นที่ เพื่อประสานงานเรื่องค่าใช้จ่ายที่ค้างชำระ ซึ่งตามสัญญาร่วมดำเนินงานระบุชัดเจนว่า หากบริษัทฯล้มละลายจะต้องทำการยกเลิกสัญญาร่วมดำเนินงาน แล้วโอนทรัพย์สินให้ กนอ.เป็นผู้ดูแล โดย กนอ.จะต้องดูแลผู้ประกอบการที่เข้ามาลงทุนในพื้นที่นิคมฯ พร้อมทั้งดูแลความเดือดร้อนด้านสาธารณูปโภคต่างๆ และค่อยมาดำเนินการแก้ไขเรื่องเขื่อนกั้นน้ำต่อจากนี้

รายงานข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม แจ้งว่า ปัญหาของนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนครเกิดขึ้นจากการที่นิคมฯไม่ก่อสร้างเขื่อนกั้นน้ำตามนโยบายของภาครัฐให้แล้วเสร็จ โดยรูปแบบเขื่อนของนิคมสหรัตนนครกำหนดความสูงไว้ที่ 7.5 เมตร แต่ผู้ประกอบการในพื้นที่ไม่มีความมั่นใจว่าจะป้องกันน้ำได้ จึงขอให้มีการปรับความสูงมาอยู่ที่ 8 เมตร (โมเดลเดียวกับนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน) แต่ทางบริษัท สหรัตนนคร จำกัด ยืนยันที่จะสร้างด้วยความสูง 7.5 เมตร ทำให้ กนอ.ไม่สามารถดำเนินการจ่ายเงินส่วนที่เหลือประมาณ 100 ล้านบาทได้

 

ซึ่งเมื่อ กนอ.ไม่ได้ดำเนินการจ่ายเงินดังกล่าว ทำให้บริษัท สหรัตนนคร จำกัด ขาดสภาพคล่อง แม้ว่าจะยื่นขอกู้เงินจากธนาคารออมสิน แต่เนื่องจากบริษัทฯไม่มีหลักประกันใดๆ และไม่สามารถขายที่ดินได้เพิ่มเติม เพราะถูกดำเนินการพิทักษ์ทรัพย์อยู่

 

โดยเมื่อเร็วๆ นี้เจ้าหน้าที่ของ กนอ.ได้ลงพื้นที่สำรวจนิคมสหรัตนนครพบว่า เขื่อนคันดินกั้นน้ำไม่มีการดำเนินการเทคอนกรีตทับด้านบนเพื่อเสริมความแข็งแรง ดำเนินการเพียงนำดินมาถมเป็นแนวยาวเท่านั้น รวมถึงสภาพถนนในพื้นที่ที่เสียหายจากน้ำท่วมยังไม่ได้รับการแก้ไข

 

ด้าน นางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า ในเบื้องต้น กนอ.จะนำกำแพงกั้นน้ำเคลื่อนย้ายได้ (เขื่อนโมบายล์) มาใช้ก่อนในช่วงฤดูฝนที่จะถึงนี้ โดยจะเข้าหารือกับทางผู้ประกอบการในพื้นที่ เช่น บริษัท เอคโค่ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อตกลงกันว่าจะสามารถนำมาทดแทนกันได้หรือไม่ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการ จากนั้น กนอ.จะเข้าไปดูแลเรื่องสาธารณูปโภคภายในนิคมทั้งหมด

 

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ

 

Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics