HOT

อาเซียนรวมกลุ่มออกมาตรการต้านเหล็กนำเข้าจากจีน
POSTED ON 22/01/2558


ข่าวอุตสาหกรรม - รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากสมาพันธ์เหล็กและเหล็กกล้าอาเซียน (AISC) ซึ่งเป็นเครือข่ายอุตสาหกรรมเหล็กใหญ่สุดจากทุกประเทศในภูมิภาคอาเซียน ได้มีมติในการประชุมสามัญ เมื่อเดือนธันวาคม 2557 ณ ประเทศสิงคโปร์ โดยเรียกร้องให้อาเซียนและรัฐบาลแต่ละประเทศแก้ปัญหาเหล็กนำเข้าทุ่มตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากจีน

 

นอกจากนี้ AISC ยังได้ส่งหนังสืออย่างเป็นทางการถึงเลขาธิการอาเซียนให้พิจารณาแก้ไขปัญหาการค้าที่ไม่เป็นธรรมดังกล่าว แต่ปัญหาดังกล่าวยังมีแนวโน้มรุนแรงยิ่งขึ้น AISC จึงต้องเรียกประชุมวิสามัญเป็นการด่วน เมื่อวันที่ 17 ม.ค.2558 ที่ผ่านมา ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย

 

ทั้งนี้ AISC ได้แถลงจุดยืนว่ายินดีเปิดรับต่อการค้าเสรี แต่ต้องเป็นการค้าที่เป็นธรรมด้วย จึงขอให้รัฐบาลของประเทศต่างๆ ไม่ลังเลที่จะตอบโต้การค้าสินค้าเหล็กที่ไม่เป็นธรรม ไม่ว่าจะเป็นการทุ่มตลาด การหลบเลี่ยงอากรด้วยเล่ห์กลต่างๆ โดยมีมติให้ร้องเรียนอาเซียนอีกครั้ง เพื่อให้มีการหาทางแก้ปัญหาในเวทีการค้าระดับภูมิภาค และเรียกร้องให้รัฐบาลแต่ละประเทศเดินหน้าใช้มาตรการที่ได้ผลยิ่งขึ้น ได้แก่ การตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-Dumping : AD) การตอบโต้การอุดหนุนตลาด (Countervailing Duty) การตอบโต้หากมีการเลี่ยงอากรในลักษณะต่างๆ (Circumvention) เป็นต้น

 

นายวิกรม วัชรคุปต์ ประธานคณะกรรมการส่งเสริมการค้า สมาพันธ์เหล็กและเหล็กกล้าอาเซียน (AISC) เปิดเผยว่า ทุกประเทศในอาเซียนกำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤติจากการถูกทุ่มตลาดสินค้าเหล็กอย่างรุนแรง แม้แต่ประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซียที่มีอุตสาหกรรมเหล็กครบวงจร ก็ยังไม่สามารถสู้กับการทุ่มตลาดสินค้าเหล็กอย่างไม่เป็นธรรมได้ โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าเหล็กจากประเทศจีนมายังอาเซียน

 

โดยในปี 2557 พบว่า มีปริมาณเพิ่มขึ้นจากปี 2556 อย่างมาก ได้แก่ เหล็กเส้นเพิ่มขึ้น 97% เป็นปริมาณกว่า 5 ล้านตัน, เหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนเพิ่มขึ้น 52% เป็นกว่า 3 ล้านตัน, เหล็กลวดเพิ่มขึ้น 17% เป็นกว่า 4 ล้านตัน, ท่อเหล็กเพิ่มขึ้น 14% เป็นกว่า 1 ล้านตัน เป็นต้น

 

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้รัฐบาลในอาเซียนได้เร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน อย่างเช่น ประเทศมาเลเซียได้ดำเนินการหลายมาตรการ ได้แก่ เปิดการไต่สวน และกำลังจะประกาศใช้มาตรการปกป้องการทุ่มตลาดเหล็กแผ่นรีดร้อนจากประเทศจีน เกาหลีใต้ ภายในต้นปี 2558 นี้ เป็นต้น

 

ที่มา : แนวหน้า