นายวิทยา เชียงอุทัย ผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์และวางแผนกลยุทธ์ บมจ.บีเจซี เฮฟวี่ อินดัสทรี (BJCHI) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมทบทวนเป้าหมายรายได้ปีนี้ใหม่ จากเดิมที่คาดเติบโตแตะ 3,000 ล้านบาท หลังมีโอกาสได้รับงานใหม่เข้ามาเพิ่ม โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 4,200 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ราว 3,000 ล้านบาท และที่เหลืออีก 1,200 ล้านบาท จะรับรู้ในปี 64

"บริษัทฯ จะมีการ Revise เป้าหมายรายได้ปีนี้ใหม่ จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตแตะ 3,000 ล้านบาท ภายหลังจากได้รับงานใหม่เข้ามาแล้ว ซึ่งอาจทำให้งานในมือของบริษัทฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่มีงานในมืออยู่ที่ 4,200 ล้านบาท"นายวิทยากล่าว

ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างการเข้าประมูลงานใหม่จำนวน 5 โครงการ มูลค่ารวม 529 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็น 16,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.โครงการอุตสาหกรรมก๊าซในต่างประเทศ ในส่วนของงานการผลิต และจัดหาหลุมผลิต (Fabrication and Supply of Wellhead) มูลค่า 25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คาดว่ามีโอกาสที่จะได้รับงานดังกล่าวค่อนข้างสูง ซึ่งน่าจะทราบผลการประมูลได้ในไตรมาส 3/63

2.โครงการโรงกลั่นน้ำมันที่ต่างประเทศ ในส่วนของงานการผลิตและประกอบสิ้นช่วน (Module Fabrication & Assembly) มูลค่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นอีกโครงการที่ BJCHI ถือว่ามีศักยภาพในการเข้าไปรับงาน คาดหวังว่าภายในครึ่งปีหลังนี้จะทราบผลได้

3.โครงการ Oil & Gas ของบริษัทพลังงานรายใหญ่ของไทย ที่มีแผนสร้างแท่นหลุมผลิต (Wellhead Platform) ในอ่าวไทย ซึ่งเป็นโครงการระยะยาว 5 ปี (64-68) มูลค่าโครงการรวม 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งบริษัทฯ จะทำในส่วนของงานการผลิตและการปรับโครงสร้าง (Shop Fabrication & Modularization) คาดว่าจะทราบผลได้ในไตรมาส 3/63

4.โครงการการพัฒนาท่าเทียบเรือที่มาบตาพุด มูลค่า 54 ล้านเหรียญฯ โดย BJCHI จะเข้าไปรับงานในส่วนของ Civil Construction & Marine Work คาดว่าเป็นอีกโครงการหนึ่งที่บริษัทฯ มีศักยภาพในการเข้าไปรับงานสูง

5.โครงการก่อสร้าง Petrochemical Plant ในต่างประเทศ มูลค่า 100 ล้านเหรียญฯ คาดว่าจะทราบผลการประมูลได้ในปี 64 ซึ่งเชื่อว่าบริษัทฯ มีโอกาสได้รับงานสูง จากได้รับเชิญเข้าไปร่วมประมูลโครงการดังกล่าว

สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมาไม่ได้ส่งผลกระทบกับบริษัทฯ อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งบริษัทฯ ยังคงสามารถส่งมอบงานให้แก่ลูกค้าได้ตามกำหนด ทำให้ในไตรมาส 1/63 มีรายได้เติบโตที่ 872.52 และกำไรสุทธิเติบโต 108.60 ล้านบาท ซึ่งให้ความมั่นใจได้ว่าผลการดำเนินงานในปีนี้จะเติบโตดีกว่าปีก่อนอย่างแน่นอน