FINANCE & INVESTMENT

ไทยยูเนี่ยนประกาศกำไรขั้นต้นไตรมาส 2 โต 13.1% จากกลุ่มธุรกิจอาหารแช่เยือกแข็ง
POSTED ON 11/08/2562


 

 

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2562 มีกำไรขั้นต้นเพิ่มขี้นในไตรมาสดังกล่าว 13.1 เปอร์เซ็นต์ สืบเนื่องจากกลุ่มธุรกิจอาหารแช่เยือกแข็งและผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงทำผลงานได้ดีในไตรมาสนี้

กำไรขั้นต้นไตรมาสที่ 2 อยู่ที่ 5,364 ล้านบาท ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 16.7 เปอร์เซ็นต์ จาก 14 เปอร์เซ็นต์จากไตรมาสเดียวกันในปี 2561 ผลกำไรขั้นต้นที่ดีนี้เองส่งผลให้กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมและค่าจัดจำหน่ายอยู่ที่ 15.4 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และสามารถจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.25 บาท ต่อหุ้น

ยอดขายไตรมาสที่ 2 นี้ลดลง 4.6 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า อยู่ที่ 32.2 พันล้านบาท เนื่องจากค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ค่าเงินสกุลยูโรอ่อนตัวลง และราคาวัตถุดิบที่ลดลง อย่างไรก็ดีปริมาณการขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจอาหารแช่เยือกแข็งและผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์ของบริษัทที่มุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มมูลค่ามากขึ้น

ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 ยอดขายในอเมริกาเหนือ มีสัดส่วน 39 เปอร์เซ็นต์ ของยอดขายรวมทั้งหมด ในขณะที่ตลาดยุโรป คิดเป็น 29 เปอร์เซ็นต์ ตลาดประเทศไทยมีสัดส่วน 12 เปอร์เซ็นต์ และยอดขายตลาดอื่นๆ คิดเป็น 19 เปอร์เซ็นต์ ในส่วนของยอดขายไทยยูเนี่ยนในไตรมาส 2 ปี 2562 ธุรกิจอาหารทะเลแปรรูปมียอดขายอยู่ที่ 14,031 ล้านบาท ลดลง 14.3 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ธุรกิจอาหารแช่เยือกแข็งและแช่เย็นเพิ่มขึ้น 3.6 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 13,435 ล้านบาท ด้วยปริมาณการเติบโตที่เพิ่มขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ของปีก่อนหน้า ในขณะที่ธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงและผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่ามียอดขายเพิ่มขึ้น 6.7 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 4,747 ล้านบาท ด้วยปริมาณการขายที่เติบโตขึ้นถึง 5.9 เปอร์เซ็นต์

"ไทยยูเนี่ยนยังคงให้ความสำคัญในเรื่องความสามารถในการทำกำไร ภาพรวมผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 นี้เป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการดำเนินธุรกิจในสภาวะที่มีความท้าทายด้วยแล้ว" นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าว "เรายังมองถึงอนาคต โดยไทยยูเนี่ยนได้นำนวัตกรรมมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่จะเปิดตัวสู่ตลาดต่างๆ ต่อไป ซึ่งเราคาดหวังว่าจะมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีธุรกิจของเราเติบโตอย่างยั่งยืน"

ในระหว่างไตรมาสที่ 2 ของปี 2562 บริษัท ชิคเก้น ออฟ เดอะซี ในเครือของไทยยูเนี่ยน ได้ตกลงระงับข้อพิพาทกับผู้ฟ้องคดีส่วนใหญ่ในคดีการป้องกันการผูกขาดในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นเงินจำนวน 1,402 ล้านบาทหลังจากหักภาษีแล้ว โดยหากไม่รวมค่าใช้จ่ายจากรายการพิเศษในกรณีดังกล่าว บริษัทได้บันทึกกำไรสุทธิเป็นเงินจำนวน 1,513 ล้านบาท

"เราเปิดเผยสถานะล่าสุดของคดีดังกล่าว เนื่องจาก บริษัท ชิคเก้น ออฟ เดอะซี ได้เตรียมพร้อมสำหรับผลกระทบทางการเงินใดๆ ที่อาจเกิดขึ้น" นายยอร์ก ไอร์เล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินกลุ่มบริษัท กล่าว