EVENT & SEMINAR

อินฟอร์มา มาร์เก็ตจัดงาน Cosmoprof CBE ASEAN 2020 เปิดเส้นทางผู้ประกอบการเครื่องสำอางไทย สู่ตลาดโลก
POSTED ON 29/01/2563


Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics

 

บริษัท อินฟอร์มา มาร์เก็ต จำกัด ผู้เชี่ยวชาญในการจัดงานแสดงสินค้าสำหรับธุรกิจ อุตสาหกรรม และนวัตกรรมที่กำลังเติบโต ร่วมกับ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมผู้ผลิตเครื่องสำอางไทย แถลงข่าวการจัดงาน "คอสโมพรอฟ ซีบีอี อาเซียน แบงค็อก 2563 (Cosmoprof CBE ASEAN 2020)" งานจัดแสดงสินค้าเพื่อธุรกิจความงามระดับโลก ที่จะมาสร้างบรรทัดฐานใหม่ของอุตสาหกรรมความงามในภูมิภาคอาเซียน ที่จะเกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการด้านความงามไทย ฝ่าวิกฤตเปิดทางออกปัญหาเศรษฐกิจโลก ผ่านงานเสวนา "ฝ่าวิกฤติ กับโอกาสการลงทุนเครื่องสำอางไทยในตลาดโลก ปี 2563" จากผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดความงามและเครื่องสำอางชั้นนำ

นายสรรชาย นุ่มบุญนำ รองกรรมการผู้จัดการ อินฟอร์มา มาร์เก็ต ประเทศไทย กล่าวถึง ภาพรวมของตลาดเครื่องสำอางไทยว่า "ตลาดเครื่องสำอางถือเป็นตลาดที่มีกำลังการเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ซึ่งสะท้อนความน่าเชื่อถือของเครื่องสำอางไทยในตลาดโลกได้เป็นอย่างดี อีกทั้งศักยภาพของประเทศไทยยังเอื้อต่อการเติบโตของตลาดเป็นอย่างมาก ทั้งในด้านมาตรฐานภาคการผลิตในระดับสูง คุณค่าของวัตถุดิบที่สามารถต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมไปถึงความเป็นจุดศูนย์กลางของอาเซียนและมาตรฐานของระบบโลจิสติกส์ ที่เป็นปัจจัยสำคัญให้อุตสาหกรรมความงามไทยมีความพร้อมและเป็นที่เชื่อมั่นของนักลงทุน"

ทั้งนี้ ด้วยจุดแข็งของตลาดเครื่องสำอางไทย มีผลช่วยให้เศรษฐกิจโดยรวมในประเทศมีการขับเคลื่อน และดึงเอาเม็ดเงินจากต่างชาติให้ไหลเข้ามาในประเทศมากขึ้น ทั้งยังเป็นตลาดที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเติบโตแข่งขันกับผู้เล่นเก่าและผู้เล่นต่างชาติได้อย่างเท่าเทียม โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย ที่สินค้า Made in Thailand Products มีความต้องการซื้อพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี เช่นจากใน จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ กัมพูชา ออสเตรเลีย 'อินฟอร์มา มาร์เก็ต' จึงใช้โอกาสนี้ สร้างเวทีเพื่อผู้ประกอบเครื่องสำอางไทยนำพาสินค้าในมือขยายไปสู่ตลาดโลก ในชื่องานว่า"คอสโมพรอฟ ซีบีอี อาเซียน แบงค็อก 2563 (Cosmoprof CBE ASEAN 2020)" ซึ่งเป็นงานจัดแสดงสินค้าเพื่อธุรกิจความงามที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน

"คอสโมพรอฟ ซีบีอี อาเซียน แบงค็อก 2563" เป็นงานจัดแสดงสินค้าเพื่อธุรกิจความงามระดับโลก บนเนื้อที่กว่า 25,000 ตารางเมตร พร้อมสร้างบรรทัดฐานใหม่ของอุตสาหกรรมความงามในภูมิภาคอาเซียน ที่จะเกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย โดยงานจะจัดขึ้นในวันที่ 17-19 กันยายน 2563 ณ ศูนย์การแสดงสินค้า และการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายในงานเป็นการสร้างพื้นที่ให้ผู้ประกอบการความงามได้นำเสนอสินค้าและนวัตกรรมความงามจากทั่วทั้งอาเซียน พร้อมเปิดโอกาสขยายการเติบโตให้ผู้ประกอบการความงาม อาทิ 'โปรแกรมจับคู่เจรจาธุรกิจ Business Matching' โปรแกรมทางธุรกิจ ออกแบบให้ผู้ออกงานได้พบกับคู่ค้าทางธุรกิจ หรือผู้ซื้อ ที่ตรงความต้องการได้สะดวกรวดเร็วมากขึ้น, 'โปรแกรม Hosted Buyer' ไฮไลต์สำคัญของงาน ที่รวมตัวผู้ซื้อคุณภาพจากทั่วโลก ให้มาพบกับผู้ประกอบการไทยภายในงานแบบเอ็กซ์คลูซีฟ, กิจกรรม 'Cosmoprof CosmoTalks' นำเสนอข้อมูลเชิงลึกรูปแบบใหม่ ด้านแนวโน้มและลักษณะในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงเวทีสัมมนาให้ความรู้ด้านการตลาดความงามแก่ผู้ประกอบการไทย และการแสดงสาธิตโดยผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมทั้งไทยและต่างประเทศ

ทางด้าน นางเกศมณี เลิศกิจจา ประธานกลุ่มคลัสเตอร์สุขภาพและความงาม ประธานกลุ่มเครื่องสำอางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และนายกสมาคมผู้ผลิตเครื่องสำอางไทย กล่าวถึงภาพรวมการแข่งขันในตลาดผู้ผลิตเครื่องสำอางว่า "แม้ว่าตลาดเครื่องสำอางจะมีมูลค่าการเติบโตสูงขึ้นทุกปี แต่ในด้านของการแข่งขันก็มีไม่น้อยไปกว่ากัน โดยเฉพาะในปีที่ผ่านมา มีผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเกิดใหม่เพิ่มมากขึ้น ทั้งยังมีรูปแบบนำเสนอสินค้าที่หลากหลายกว่าเดิม อาทิ เทรนด์ผลิตภัณฑ์ที่แปลกใหม่ Packaging ที่แตกต่างพกพาสะดวก ราคาต่อหน่วยที่ถูกลง โดยเฉพาะช่องทางการขายที่เข้าถึงได้ง่าย ทั้งจากช่องทางเดิมๆ ใน Modern trade, Convenient store, Beauty shop, Retail shop และการบุกทาง Online ผ่านทาง Social Media ต่างๆ ซึ่งมีต้นทุนต่ำ ใช้งบน้อยและเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย โดยกลุ่ม Startup, ดารานักแสดง, Net Idol ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้พฤติกรรม Brand Loyalty ของผู้บริโภคลดลง และนำมาซึ่งการตัดสินใจใช้สินค้าใหม่ๆ แบรนด์ใหม่ๆ ง่ายขึ้น"

การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคครั้งนี้ ประกอบกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ส่งผลให้ตลาดเครื่องสำอางมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่ม Mass ระดับกลางและระดับล่าง ทั้งในกลุ่มผู้ประกอบการใหม่, กลุ่มผู้ขายสินค้านำเข้า หรือแม้แต่กลุ่ม Global Brand เอง ก็เริ่มพัฒนา Collection ที่ถูกลง เพื่อเข้าหาลูกค้ากลุ่ม Mass มากขึ้น รวมถึงออก Fighting brandใหม่ๆ ในราคาที่จับต้องได้ เพื่อร่วมในตลาดระดับรองลงมา และรักษาส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มสินค้านั้นๆ แต่โชคดีที่ในปี 2563 สัดส่วนของผู้บริโภคจะมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากอายุของกลุ่มที่เริ่มใช้เครื่องสำอางมีค่าเฉลี่ยลดลง ทั้งยังมีโอกาสจากกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศ ที่เชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย และมองหาคู่ค้าไทยในการทำธุรกิจ โดยเฉพาะในเวที "คอสโมพรอฟ ซีบีอี อาเซียน แบงค็อก 2563" ที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการชาวไทยสามารถส่งสินค้าในมือไปสู่ตลาดโลก เพื่อสู้กับการแข่งขันที่ขยายตัว ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น