EVENT & SEMINAR

บริษัทเทคโนโลยีจากจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กระชับสัมพันธ์ชื่นมื่น ปิดฉากการประชุม PingWest SYNC S
POSTED ON 04/01/2563


 

 

การประชุม PingWest SYNC SEA 2019 ปิดฉากลงเมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา ณ ประเทศสิงคโปร์ ภายใต้ธีม "Shape the Future" งานนี้เป็นการประชุมสุดยอดครั้งแรกที่สื่อออนไลน์ด้านเทคโนโลยีรายใหญ่จากจีนที่มีนักข่าวอยู่ทั่วโลกอย่าง PingWest จัดขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อเชื่อมโยงอุตสาหกรรมเทคโนโลยีจากจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดของโลก

 

Thomas Luo ผู้ร่วมก่อตั้ง ซีอีโอ และหัวหน้ากองบรรณาธิการของ PingWest กล่าวในระหว่างพิธีเปิดการประชุมว่า "เป้าหมายของเราคือการทะลายกำแพงที่ขวางกั้น รวมถึงแนะนำให้บริษัทเทคโนโลยีและนักลงทุนของจีนที่ต้องการขยายตลาดในต่างประเทศได้รู้จักกับผู้ประกอบการและระบบนิเวศเทคโนโลยีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้"

 

การประชุมสุดยอดด้านเทคโนโลยีครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมงานคับคั่ง ประกอบไปด้วยผู้นำและนักลงทุนในอุตสาหกรรมกว่า 300 ราย ตั้งแต่บริษัทชั้นนำ เช่น Ant Financial, Alibaba Cloud, Google Cloud, Twitter และ ZEGO Technology ไปจนถึงบริษัทที่มีชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจร่วมลงทุน เช่น Sequoia Capital, Plug and Play Tech Center และ Golden Gate Ventures ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมได้หารือกันอย่างเจาะลึกในหลายหัวข้อ เช่น การใช้ Data Intelligence (การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก) เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การใช้ AI ในอุตสาหกรรมฟินเทคที่กำลังเติบโต การประมวลผลคลาวด์ การยืนยันตัวตนด้วยเทคโนโลยีไบโอเมตริกซ์ บล็อกเชน และการลงทุนในทุกระยะของการเติบโต

 

Caixin และ Lianhe Zaobao (Nanyang Sin-Chew United Morning News) เป็นหนึ่งในสื่อชั้นนำ 20 รายของจีนและสิงคโปร์ที่เข้าร่วมงานและรายงานข่าวการประชุม PingWest SYNC SEA 2019

 

ภายในงาน ผู้นำอุตสาหกรรมจากทั่วโลกได้นำเสนอมุมมอง ตลอดจนอภิปรายเกี่ยวกับอนาคตของนวัตกรรมและแนวโน้มที่จะเข้ามากำหนดนิยามใหม่ให้กับอุตสาหกรรม Wu Shilin หัวหน้าฝ่ายธุรกิจทั่วโลกของ Zoloz บริษัทชั้นนำด้านการยืนยันตัวตนด้วยเทคโนโลยีไบโอเมตริกซ์ ซึ่งได้รับการบ่มเพาะโดย Ant Financial ได้เล่าถึงรายละเอียดของกลยุทธ์ด้านความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของบริษัทสำหรับการใช้ข้อมูลในอนาคตและการจดจำตัวตนด้วยไบโอเมตริก โดยบริษัทให้บริการเทคโนโลยี electronic Know Your Customer (e-KYC) แก่ธนาคารชั้นนำและสถาบันการเงินทั่วโลก

นาย Wu กล่าวว่า การยืนยันตัวตนทางดิจิทัลเริ่มต้นจากการใช้ปัจจัยเดียว (single factor) ได้แก่ ชื่อผู้ใช้ และ รหัสผ่าน จากนั้นจึงถูกยกระดับความปลอดภัยด้วยการเพิ่มปัจจัย เช่น SMS โทเค็น สมาร์ทการ์ด ปัจจุบัน อัตลักษณ์ทางดิจิทัลพัฒนาเข้าสู่การพิสูจน์ตัวตนง่าย ๆ ในสมาร์ทโฟนด้วยเทคโนโลยีการจดจำตัวตนโดยไบโอเมตริกซ์ ซึ่งตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถอาศัยความได้เปรียบจากการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตบนมือถือความเร็วสูงที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

หนึ่งในภารกิจของบริษัทคือ การช่วยให้ธนาคารและสถาบันการเงินให้บริการได้มากขึ้นและดีขึ้นแก่ประชาชนกว่า 1.7 พันล้านคนทั่วภูมิภาคที่ไม่เคยทำธุรกรรมธนาคารมาก่อน และทำให้พวกเขาสามารถเปิดบัญชีใหม่ สมัครสินเชื่อ และลงทุนออนไลน์บนสมาร์ทโฟนของตนเอง ขณะเดียวกันก็ช่วยให้สถาบันการเงินประหยัดเวลาหลายล้านชั่วโมงด้วยการปรับปรุงบริการของตนให้ดีขึ้น

 

ในระหว่างการประชุมว่าด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ระดับองค์กร Lawrence Lu กรรมการผู้จัดการบริษัท Tongdun Technology ประจำภูมิภาคเอเชียและสิงคโปร์ กล่าวถึงรายละเอียดของความเสี่ยงด้านการทุจริตที่เพิ่มขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อันเนื่องมาจากอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตกำลังเติบโต นอกจากนี้ เขายังได้เผยถึงวิธีการที่บริษัทต่าง ๆ สามารถลดความเสี่ยงดังกล่าวผ่านความช่วยเหลือของปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูง

 

ข้อมูลสถิติจากแหล่งที่มาต่าง ๆ เผยให้เห็นว่า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รับความเสียหายจากการฉ้อโกงหรือหลอกลวงมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 40% และคิดเป็นมูลค่าความเสียหายทั้งสิ้น 650 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยนาย Lu ได้นำเสนอข้อมูลการวิเคราะห์ของ Tongdun Technology ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การโจมตีแบบ Bot Attack เป็นวิธีการโกงที่แพร่หลายที่สุดในภูมิภาค คิดเป็น 64.2% ครอบคลุมหกประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับการสำรวจ

 

Tongdun Technology ช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ ลดความเสี่ยงได้ด้วยการรวมอัลกอริทึมที่ก้าวล้ำเข้าไว้ในระบบการจัดการความเสี่ยง เพื่อบ่งชี้รูปแบบการโกงที่น่าสงสัยและธุรกรรมที่เป็นการทุจริต "เรามั่นใจว่า เทคโนโลยีของเราสามารถช่วยให้ลูกค้าสถาบันบริหารจัดการความเสี่ยงได้ดีขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการทุจริตฉ้อโกงได้อย่างมีประสิทธิภาพ" Lawrence Lu กล่าวในระหว่างการประชุม SYNC SEA 2019 ช่วงเช้า

 

อุตสาหกรรมคลาวด์คอมพิวติ้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ขยายตัวทั้งในแง่ของการลงทุนและการให้บริการ โดย Alibaba Cloud และ Google Cloud ซึ่งเป็นสองผู้ให้บริการคลาวด์คอมพิวติ้งรายใหญ่ที่สุด ได้เข้าร่วมการประชุมของ PingWest ในครั้งนี้ด้วย

 

Dr. Derek Wang ผู้จัดการทั่วไปของ Alibaba Cloud ประจำสิงคโปร์ กล่าวว่า คลาวด์ช่วยเสริมสร้างศักยภาพเศรษฐกิจดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และช่วยผลักดันบริษัทขนาดใหญ่ รวมทั้งธุรกิจขนาดกลางและเล็ก โดยผู้ให้บริการคลาวด์ เช่น Alibaba มอบความช่วยเหลือมากมายเพื่อให้ลูกค้าประสบความสำเร็จ

 

"ไม่ว่าบริษัทขนาดใหญ่หรือ SMEs ต่างมีความต้องการเพิ่มขึ้นที่จะขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่ง Alibaba จะให้คำปรึกษาและสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีที่จำเป็น" นาย Wang กล่าว พร้อมกับเสริมว่า บริษัทมีความเชื่อมั่นที่จะช่วยให้ธุรกิจท้องถิ่นทุกขนาดและทุกพื้นความรู้เติบโตได้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมถ่ายทอดความสำเร็จต่อไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ของโลก ปัจจุบัน Alibaba Cloud มีพื้นที่ให้บริการ 56 แห่งทั่วโลก ซึ่ง 7 แห่งอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย

 

Mark Johnson หัวหน้าผู้เชี่ยวชาญด้านองค์กรธุรกิจของ Google Cloud ประจำเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า Google Cloud ซึ่งเป็นผู้ให้บริการคลาวด์จากสหรัฐ ให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยีแมชชีนเลิร์นนิงของบริษัทเพื่อช่วยลูกค้าวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลได้ดีขึ้น และตรวจพบภัยคุกคามได้เร็วและแม่นยำมากขึ้น

 

การประชุม PingWest 2019 SEA ยังมีเป้าหมายที่จะสนับสนุนความสัมพันธ์ระหว่างนักลงทุนท้องถิ่นและทั่วโลกกับบริษัทและผู้ประกอบการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Pieter Kemps ตำแหน่ง Principal จาก Sequoia Capital กล่าวว่า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีศักยภาพมหาศาล บริษัทจึงได้มุ่งความสนใจ ตลอดจนทุ่มเวลาและเงินลงทุนมาที่ตลาดนี้มากขึ้น

 

"เทคโนโลยีต่าง ๆ จากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเฟื่องฟู ดังเห็นได้จากเงินทุนใหม่ ๆ ที่กำลังไหลเข้ามาในภูมิภาค เนื่องจากนักลงทุนตระหนักดีว่า บริษัทเทคโนโลยีในภูมิภาคนี้สามารถบรรลุอัตราการเติบโตได้เท่ากับบริษัทที่เติบโตเร็วที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกในปัจจุบัน" Russ Neu หุ้นส่วนที่บริษัท Quest Ventures กล่าว