ENOC Group พันธมิตรอย่างเป็นทางการด้านการบูรณาการพลังงานของมหกรรม Expo 2020 Dubai เปิดเผยแผนการจัดแสดงพาวิลเลียนที่จะมาเป็นหนึ่งในจุดดึงดูดที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในงาน Expo 2020 Dubai ด้วยการออกแบบที่มุ่งสร้างแรงบันดาลใจให้กับแขกผู้มาเยือนตลอดระยะเวลา 6 เดือนของการจัดงาน ซึ่งจะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค. 2020 เป็นต้นไป ภายใต้แนวคิดอันเป็นเอกลักษณ์ที่เน้นถึงความเป็นผู้นำของ ENOC ในธีม 'Reimagine Energy'

ฯพณฯ ซารีฟ ฮุมัยด์ อัล ฟาลาซี ซีอีโอกลุ่มบริษัท ENOC กล่าวว่า "เป็นเวลากว่า 25 ปีแล้ว ที่เรามุ่งมั่นทำงานเพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานของประเทศ และพยายามปฏิรูปภาคพลังงานผ่านการดำเนินงานแบบบูรณาการและส่งมอบบริการที่เป็นนวัตกรรม พาวิลเลียนของเราจะมาสร้างประสบการณ์ที่ดำดิ่งและแปลกใหม่ไม่เหมือนใครเพื่อท้าทายความเข้าใจเกี่ยวกับพลังงานที่คนทั่วๆไปมีอยู่ เราจึงมั่นใจว่านี่จะเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงในมหกรรม Expo 2020 Dubai นี้"

ฯพณฯ รีม อัล ฮาชีมี รัฐมนตรีกระทรวงความร่วมมือระหว่างประเทศและผู้อำนวยการจัดงานมหกรรม Expo 2020 Dubai กล่าวว่า "ENOC เป็นผู้เล่นคนสำคัญในอุตสาหกรรมพลังงานระดับโลก อีกทั้งยังมีความสำคัญต่อความก้าวหน้าของ UAE มหกรรม Expo 2020 ซึ่งเป็นงานนิทรรศการสุดยิ่งใหญ่ของโลกที่แสดงให้เห็นความชาญฉลาดและความสำเร็จของมวลมนุษยชาติงานนี้ จึงเป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะสมที่สุดที่จะแสดงให้เห็นถึงวิธีการที่ ENOC กำลังทำอยู่เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนและสร้างสรรค์ให้กับภาคพลังงานของเรา"

พาวิลเลียนของ ENOC จะถูกจัดขึ้นภายใต้ธีมของแนวคิดการออกแบบให้เป็นถังเก็บน้ำมันที่มีโครงสร้าง 5 ส่วน ซึ่งประกอบไปด้วย "บ้าน" 4 หลังที่จะมาบอกเล่าเรื่องราวที่แตกต่างกันไป ได้แก่ "Discovery" ให้ความรู้ว่าพลังงานคืออะไร; "Harness" บอกให้รู้ว่าพลังงานสามารถทำอะไรได้บ้าง; "Collaborate" ทำให้เข้าใจว่าพลังงานต้องการอะไร และ "Reimagine" ที่จะมาเล่าเรื่องราวคำมั่นสัญญาของพลังงาน นอกจากนี้ยังมีการจัดสรรพื้นที่ 'The Hive' ไว้เป็นเวทีให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้มาร่วมกันหารือถกประเด็นในคำถามที่ยังหาคำตอบไม่ได้ของภาคอุตสาหกรรมอีกด้วย พาวิลเลียนดังกล่าวจะใช้เหล็กน้ำหนักรวม 650 ตันเป็นองค์ประกอบหลัก และถูกออกแบบมาโดยคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยเป็นสำคัญ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนได้ดื่มด่ำไปกับเรื่องราวของพลังงานตลอดเวลาที่มาเยี่ยมชม'บ้าน' ทั้ง 4 หลังซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 18 นาที ผ่านการบรรยายด้วยภาพและเสียง, การสร้างประสบการณ์จากประสาทสัมผัส, การจัดแสดงภาพเคลื่อนไหว รวมถึงกิจกรรมสร้างปฏิสัมพันธ์ในรูปแบบต่าง ๆ นอกจากนี้ วัสดุที่ถูกนำมาใช้ในการสร้างพาวิลเลียนยังเป็นวัสดุที่แสดงถึงความยั่งยืนทั้งในส่วนพื้นซึ่งสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ รวมถึงการกักเก็บน้ำทิ้งจากระบบปรับอากาศมาใช้สำหรับรดน้ำต้นไม้

นอกจากนี้ ENOC ยังมีแนวคิดที่จะจัดสถานีบริการแบบใหม่ในมหกรรมนี้ภายใต้การออกแบบบนพื้นฐานการจัดวางโครงสร้างแบบต้น Ghaf ซึ่งจะกลายมาเป็นแนวคิดการออกแบบแนวคิดแรกที่ผ่านการรับรองมาตรฐานอาคารสีเขียวระดับ LEED Gold ได้เป็นครั้งแรกของภูมิภาค และถูกนำมาใช้ในการจัดวางโครงสร้างของแผนงานเขตเศรษฐกิจและธุรกิจใหม่ของดูไบ หรือที่มีชื่อเรียกว่า District 2020 ในที่สุด