ENVIRONMENT

FTSE ประเมินธุรกิจสำเร็จ GC ติดชาร์จเดินหน้าองค์กรสู่ความยั่งยืน
POSTED ON 14/08/2563


Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics

 

FTSE4Good Index Series เป็นหนึ่งในดัชนีชั้นนำด้านความยั่งยืนที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก เพื่อช่วยให้นักลงทุนตระหนักถึงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสังคม และด้านธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) และให้นักลงทุนใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการลงทุน เพื่อการมีส่วนร่วมและการรับผิดชอบต่อสังคมของบริษัท ซึ่ง FTSE4Good Index Series จะพิจารณาผลการดำเนินงานของบริษัทนั้นๆ ในด้าน ESG จากข้อมูลที่บริษัทเผยแพร่ต่อสาธารณะ เช่น Website และ รายงานความยั่งยืน เป็นต้น ดังนั้น คะแนนที่ได้จึงเป็นผลการประเมินการดำเนินงานภาพรวมของบริษัทนั่นเอง

 

สำหรับบริษัทชั้นนำในไทยที่โดดเด่นในเรื่องของความยั่งยืนอีกหนึ่งบริษัทสำคัญคือ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC “ ในฐานะผู้นำในธุรกิจเคมีภัณฑ์ที่ผสานนวัตกรรม และเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างสรรค์ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นที่ได้ผ่านเกณฑ์การประเมินของ FTSE และได้รับการคัดเลือกเป็นสมาชิก FTSE4Good Index Series ติดต่อกันเป็นปีที่ 5 สะท้อนให้เห็นถึงความรับผิดชอบขององค์กรที่ดำเนินธุรกิจต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมถึงมีหลักธรรมาภิบาลเพื่อการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Environmental, Social and Governance: ESG Performance) ซึ่งทั้ง 3 ด้านมีดังนี้

 

ด้านสิ่งแวดล้อม GC มีนโยบายและระบบบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมแบบบูรณาการทั้งด้านพลังงาน อากาศ น้ำ และของเสีย มีความตระหนักถึงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่า โดยเป็นองค์กรแรกๆ ของประเทศที่ได้ริเริ่มนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาประยุกต์ใช้และได้สร้างตัวอย่างความสำเร็จให้เป็นที่ยอมรับ อาทิ โครงการ Upcycling The Oceans, Thailand (UTO) ที่เป็นการร่วมมือกันของ 3 พันธมิตร ได้แก่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มูลนิธิอีโคอัลฟ์ จากประเทศสเปน และ GC ในการลดปัญหาจากขยะพลาสติกในทะเล เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลไทย ด้วยการนำขยะที่เก็บขึ้นมาจากทะเล นำมาแปรรูปเป็นสินค้าแฟชั่น ได้แก่ เสื้อผ้า และกระเป๋าเป้ เป็นต้น ผ่านกระบวนการอัพไซคลิง (Upcycling) โดย GC ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2560 และต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน การดำเนินโครงการดังกล่าว เป็นโครงการที่ช่วยสร้างจิตสำนึกของประชาชน ให้ตระหนักถึงปัญหาขยะในทะเล เป็นการช่วยอนุรักษ์ ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม และรักษาระบบนิเวศทางทะเล นอกจากนี้ ผลลัพธ์ที่ได้ยังส่งผลให้ความเป็นอยู่ของชาวบ้านในพื้นที่ รวมทั้งสัตว์น้ำในทะเล มีสุขภาวะที่ดีขึ้น

 

ด้านสังคม GC ยึดมั่นและบูรณาการหลักสิทธิมนุษยชนในทุกๆ กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ตลอดจนควบคุม ดูแล และป้องกันปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนในรูปแบบต่างๆ ซึ่งหลักการและการดำเนินงานทั้งหมดนี้ ครอบคลุมกลุ่มพนักงาน คู่ธุรกิจ คู่ค้าทางธุรกิจ ผู้รับเหมา ลูกค้า ชุมชนและสังคม อาทิ โครงการ OUR Khung Bangkachao ซึ่งได้ปรับแนวทางการดำเนินงานของโครงการ UTO ในการพัฒนาสินค้าอัพไซคลิง โดยโครงการนี้ ได้สร้างงาน สร้างอาชีพให้กับชาวบ้านและชุมชน ผ่านการตัดเย็บจีวรรีไซเคิล ซึ่งเป็นผลผลิตจากความร่วมมือของชุมชน วัด และพันธมิตรทางธุรกิจของ GC ส่งผลให้ชาวบ้านและชุมชนยังมีความรู้ความเข้าใจต่อการใช้ทรัพยากร ผ่านการคัดแยกขยะอย่างถูกต้องอีกด้วย

 

ด้านธรรมาภิบาล GC มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบ โปร่งใส ตรวจสอบได้ และเป็นธรรมตามหลักการและนโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดี หลักจรรยาบรรณธุรกิจ และนโยบายการกำกับดูแลการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบของบริษัทฯ พร้อมทั้งมุ่งสร้างคุณค่าและความเชื่อมั่นให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกันขององค์กร สังคม และประเทศชาติ โดย GC ถือว่าการกำกับดูแลกิจการที่ดีนี้เป็นเสมือนเกราะคุ้มภัยให้กับทั้งองค์กร พนักงาน ผู้มีส่วนได้เสียตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า เพราะความเชื่อที่ว่า การเติบโตไปพร้อมกันจะเป็นการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืน ความสำเร็จของการดำเนินงานของโครงการต่างๆ ภายใต้การขับเคลื่อนของ GC นับเป็นตัวอย่างขององค์กรที่ให้ความสำคัญและพร้อมก้าวสู่ความยั่งยืน สะท้อนถึงความรับผิดชอบการดำเนินงานในทุกๆด้าน ที่สามารถนำไปสู่การสร้างสรรค์ทางธุรกิจให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเกิดการต่อเชื่อมของระบบธุรกิจ ไปยังเครือข่าย กลุ่มคนรุ่นใหม่ และคนในท้องถิ่นให้เข้าถึงและเข้าใจในแนวทาง การพัฒนาอย่างยั่งยืน