ENVIRONMENT

ซีพีเอฟ ตั้งเป้ายกเลิกใช้ถ่านหิน ปี 2565 ร่วมรักษาสิ่งแวดล้อมยั่งยืน
POSTED ON 15/06/2562


 

 

เตรียมเปิดตัว โครงการ “CPF Coal Free 2022” ยกเลิกใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงในประเทศไทยในปี 2565 และขยายไปยังกิจการต่างประเทศ

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เดินหน้าบรรเทาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ตลอดห่วงโซ่การผลิต ตอกย้ำความมุ่งมั่นร่วมลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หนึ่งในสาเหตุของภาวะโลกร้อนและมลพิษทางอากาศ สนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ เตรียมเปิดตัว โครงการ “CPF Coal Free 2022” ยกเลิกใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงในประเทศไทยในปี 2565 และขยายไปยังกิจการต่างประเทศ

นายสุขสันต์ เจียมใจสว่างฤกษ์ ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า บริษัทฯดำเนินธุรกิจโดยตระหนักถึงความสำคัญของการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติครอบคลุมตลอดห่วงโซ่การผลิต รวมทั้งพัฒนานวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการด้านพลังงาน น้ำ ของเสีย และลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยมุ่งมั่นเป็นบริษัผลิตอาหารที่มีส่วนร่วมรักษาดุลยภาพของสิ่งแวดล้อมโลก และสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals : SDGs)

นอกจากนี้ เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการมีส่วนร่วมบรรเทาผลกระทบจากปัญหาโลกร้อน และสนับสนุนเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมยั่งยืน ซีพีเอฟเตรียมเปิดตัว โครงการ “CPF Coal Free 2022” มีเป้าหมายยกเลิกการใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงสำหรับกิจการในประเทศไทย ในปี 2565 และขยาย ไปยังกิจการในต่างประเทศ โดยจะนำชีวมวลซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหมุนเวียนมาใช้ทดแทนถ่านหินในการผลิตไอน้ำ ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่า 70,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี

ทั้งนี้ ซีพีเอฟได้ประกาศเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมยั่งยืน ภายในปี 2563- 2568 โดยมีเป้าหมายลดปริมาณการใช้พลังงานต่อหน่วยการผลิต ร้อยละ 15 ลดปริมาณการดึงน้ำมาใช้ต่อหน่วยการผลิต ร้อยละ 30 ลดปริมาณของเสียที่กำจัดโดยการฝังกลบและเผาต่อหน่วยการผลิต ร้อยละ 35 และลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อหน่วยการผลิต ร้อยละ 25 ดำเนินการผ่านโครงการต่างๆ อาทิ โครงการซีพีเอฟโซลาร์รูฟท็อป (CPF Solar Rooftop) ซึ่งเป็นโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคาโรงงาน 34 แห่ง มีแผนติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์แล้วเสร็จทั้งหมดภายในปี 2562 คาดว่าจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 28,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี

ขณะเดียวกัน บริษัทฯเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนจากร้อยละ 21 ของสัดส่วนการใช้พลังงานทั้งหมดในปี 2560 เป็นร้อยละ 25 ในปี 2561 และดำเนินโครงการด้านการจัดการพลังงาน อาทิ โครงการนำก๊าซชีวภาพมาผลิตไฟฟ้า โดยเมื่อปี 2561 ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 322,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ โครงการนวัตกรรมอาหารสุกรรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งดำเนินการในประเทศไทยและขยายผลไปยังธุรกิจผลิตอาหารสุกรในอีก 7 ประเทศ คือ ลาว กัมพูชา เวียดนาม ฟิลิปปินส์ จีน ไต้หวัน และรัสเซีย สามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 41,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นต้น