ENVIRONMENT

สหราชอาณาจักรและเยอรมนี หนุนอุตฯทำความเย็นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในไทย
POSTED ON 14/07/2559


 

กระทรวงสิ่งแวดล้อม คุ้มครองธรรมชาติ การก่อสร้าง และความปลอดภัยทางปรมาณูของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (BMUB) ร่วมกับ กระทรวงพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของสหราชอาณาจักร (DECC) และองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) จัดพิธีเปิดตัวโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและการลดก๊าซเรือนกระจกที่เหมาะสมของประเทศในอุตสาหกรรมระบบปรับอากาศและทำความเย็น (RAC NAMA) เพื่อสนับสนุนเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูงและสารทำความเย็นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมระบบปรับอากาศและทำความเย็น

 

โครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากกองทุนต่างประเทศ คือ NAMA Facility โดยกระทรวงของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และ สหราชอาณาจักรด้วยมูลค่า 14.7 ล้านยูโร (ประมาณ 560 ล้านบาท) โดยโครงการฯจะให้ความร่วมมือกับทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการดำเนินงาน

 

ฯพณฯ เพเทอร์ พรือเกล เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ประจำประเทศไทย กล่าวในพิธีเปิดตัวโครงการว่า “ประเทศไทยถือเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของอุตสาหกรรมระบบปรับอากาศและทำความเย็น ที่ประกอบไปด้วยผู้ประกอบการในประเทศและบริษัทข้ามชาติ ดังนั้น ผู้ประกอบการหรือบริษัทในอุตสาหกรรมนี้จะต้องมีศักยภาพในการพัฒนาและปรับตัวให้เข้ากับเงื่อนไขกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงไปตามข้อตกลงระหว่างประเทศ หมายความว่าบริษัทผู้ผลิตเหล่านี้ต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างยิ่งในการปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตไปสู่เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูงและสารทำความเย็นแบบธรรมชาติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อที่จะสามารถแข่งขันอยู่ในตลาดอุตสาหกรรมระบบปรับอากาศและทำความเย็นนี้ได้”

 

“หลังจากที่ได้มีการเตรียมแผนการดำเนินงาน โครงการฯ ก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการและจะดำเนินงานเพื่อให้บรรลุผลตามเป้าในระยะเวลา 4 ปี ซึ่งนับเป็นโอกาสอันดียิ่งที่โครงการฯ ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรภาครัฐ และโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยโครงการฯมีความมุ่งหวังที่จะต่อยอดความร่วมมือไปยังองค์กรต่างชาติ อาทิ โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียและแปซิฟิก (UNESCAP) และธนาคารโลก เพื่อให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมสาขานี้อย่างยั่งยืน” ฯพณฯ เพเทอร์ พรือเกล กล่าวเสริม

 

ด้าน นายพอล บิวท์ อัครราชทูต ณ สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “สหราชอาณาจักรมีความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและพัฒนาระบบการทำงานในตลาดพลังงานให้มีประสิทธิภาพ ความมุ่งมั่นนี้อาจเรียกได้ว่าถูกดำเนินงานในระดับชาติ เนื่องจากโครงการฯกำลังคิดค้นหาวิธีการใช้พลังงานสุทธิให้เป็นศูนย์ในสหราชอาณาจักร และกับประเทศอื่น ๆ เช่น ประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศพันธมิตรที่เข้าร่วมโครงการฯ เพื่อก้าวเข้าสู่สังคมเมืองเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำไปพร้อมกัน”

 

“ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศไทย จะได้รับประโยชน์จากกองทุน NAMA Facility นี้ ซึ่งโครงการฯจะเข้ามาช่วยปรับเปลี่ยนการผลิตและการใช้งานของระบบปรับอากาศและทำความเย็นของประเทศไทย ด้วยมาตรฐานและเทคโนโลยีใหม่ ที่สนับสนุนการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น" นายบิวท์ กล่าวเสริม

 

นายทิม มาเลอร์ ผู้อำนวยการโครงการฯ ประจำ GIZ ประเทศไทย กล่าวว่า “แนวทางแรก โครงการ RAC NAMA มีเป้าหมายที่จะกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภคให้ซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพพลังงานสูงขึ้น โดยใช้เกณฑ์มาตรฐานประสิทธิภาพพลังงาน การติดฉลากสินค้าและการเพิ่มแรงจูงใจทางการเงินอื่นๆ ให้แก่ลูกค้า นอกจากนี้ โครงการฯ ยังมุ่งเป้าการทำงานไปยังกลุ่มทุนผู้พัฒนาโครงการฯ เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ตและโรงแรม เป็นต้น โดยจะสนับสนุนให้พัฒนาโครงการและธุรกิจไปในทิศทางที่คำนึงถึงประสิทธิภาพการใช้พลังงานและติดตั้งอุปกรณ์เครื่องปรับอากาศและทำความเย็นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในส่วนแนวทางที่สองสำหรับบางผลิตภัณฑ์ เช่น ตู้เย็นและตู้แช่ซึ่งใช้เทคโนโลยีสารทำความเย็นที่มีค่าศักยภาพในการทำให้เกิดภาวะโลกร้อน (GWP) ในระดับต่ำ และได้มีการวางขายในท้องตลาดอยู่แล้ว โครงการฯมีเป้าหมายที่จะดำเนินมาตรการเพิ่มแรงจูงใจหรือกลไกทางการเงินให้แก่กลุ่มลูกค้าในประเทศ เพื่อกระตุ้นความต้องการซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพพลังงานสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”

 

นายมาเลอร์ ยังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า “นอกจากนี้ โครงการฯ ยังจะสนับสนุนการเตรียมความพร้อมของประเทศไทยไปสู่การใช้สารทำความเย็นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยโครงการฯ จะดำเนินงานร่วมกับกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ ที่รับผิดชอบในการกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยและกฎหมายควบคุมอาคาร เพื่อให้มีความสอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติที่ดีและเป็นมาตรฐานสากล ตลอดจนมีแผนงานส่งเสริมการฝึกอบรม เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการในอุตสาหกรรมระบบปรับอากาศและทำความเย็น ให้มีความสามารถและความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการมาตรการด้านความปลอดภัยของอุปกรณ์ที่ใช้สารทำความเย็นที่แตกต่างกัน”

 

Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics