ENERGY

ราช กรุ๊ป ซื้อหุ้น 49% โรงไฟฟ้าเน็กส์ซิฟ กำหนดเดินเครื่องเชิงพาณิชย์เดือนเมษายน 2565
POSTED ON 14/03/2563


Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics

 

บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ร่วมทุนโครงการโรงไฟฟ้า กำลังผลิตติดตั้ง 92 เมกะวัตต์ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น เพื่อเข้าซื้อหุ้นสามัญร้อยละ 49 ของบริษัท NER Singapore Pte. Ltd. ซึ่งถือหุ้นในบริษัท เน็กส์ซิฟ เอ็นเนอร์จี ระยอง จำกัด ที่เป็นผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าเน็กส์ซิฟ เอ็นเนอร์จี ระยอง มูลค่าการลงทุนเป็นเงินจำนวน 21 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 662 ล้านบาท โครงการดังกล่าวมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าประเภทผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็กสัญญา Firm ระบบโคเจนเนอเรชั่น กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ระยะเวลา 25 ปี ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวได้จัดหาเงินกู้เป็นที่เรียบร้อยแล้วและพร้อมเริ่มก่อสร้างในเดือนเมษายน 2563 โดยมีกำหนดการเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในเดือนเมษายน 2565

นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การร่วมทุนกับ Nexif Energy ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานชั้นนำของสิงคโปร์และมีการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนและโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงหลักในอาเซียนและออสเตรเลียในโครงการโรงไฟฟ้าเน็กส์ซิฟ เอ็นเนอร์จี จังหวัดระยอง นับเป็นความสำเร็จของบริษัทฯ ในการขยายฐานผลิตไฟฟ้าในภาคตะวันออก และมีส่วนช่วยผลิตไฟฟ้าเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้าของประเทศและภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายจะผนึกกำลังกันขับเคลื่อนโครงการเน็กส์ซิฟ เอ็นเนอร์จี ให้เดินหน้าสำเร็จตามเป้าหมาย พร้อมทั้งจับมือเป็นพันธมิตรระยะยาวเพื่อพัฒนาความร่วมมือโครงการอื่นๆ ในอนาคต เพราะทั้งสองบริษัทฯ มีเป้าหมายและฐานธุรกิจในเอเชีย และออสเตรเลียเช่นเดียวกัน

“โครงการเน็กส์ซิฟ เอ็นเนอร์จี ระยอง เป็นหนึ่งในเป้าหมายที่บริษัทฯ หมายมั่นจะลงทุนให้สำเร็จในปีนี้ เพราะเป็นโครงการที่พร้อมเดินหน้าก่อสร้างได้ในเดือนเมษายนปีนี้ อีกทั้งยังเป็นโครงการโรงไฟฟ้าแห่งแรกในภาคตะวันออกของบริษัทฯ ซึ่งจะเป็นช่องทางที่จะขยายการลงทุนพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกของภาครัฐได้ สำหรับ กระแสไฟฟ้า 90 เมกะวัตต์ที่ผลิตจากโครงการนี้จะจำหน่ายให้กับ กฟผ. ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ส่วนที่เหลือจะผลิตจำหน่ายแก่ลูกค้าอุตสาหกรรมในสวนอุตสาหกรรม เอสเอสพี อินดัสเทรียล พาร์ค นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเห็นศักยภาพของโครงการที่จะขยายกำลังการผลิตตอบสนองความต้องการลูกค้าอุตสาหกรรมในอนาคตตามแผนการลงทุนปี 2563 ด้วย ความสำเร็จของโครงการนี้จะเป็นแรงผลักดันให้บริษัทฯ เดินหน้าขยายลงทุน โดยเฉพาะโครงการที่พัฒนาแล้ว (Brownfields) และกิจการที่ดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว เพื่อให้บรรลุเป้าหมายกำลังผลิตเพิ่ม 780 เมกะวัตต์ในปี 2563 ซึ่งบริษัทฯ ได้จัดเตรียมเงินลงทุนรองรับไว้แล้ว 20,000 ล้านบาท” นายกิจจา กล่าว