BUSINESS

อินโดรามารับดีมานด์เคมีภัณฑ์ทั่วโลก พร้อมขยายฐาน PTA และ PET ในสหรัฐฯ
POSTED ON 25/11/2561


Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics

อินโนรามาเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจในห่วงโซ่โพลีเอสเตอร์และกลุ่มธุรกิจ HVA ด้วยการซื้อกิจการในต่างประเทศ ตอกย้ำภาพรวมเศรษฐกิจในปี 2562 ยังโตต่อเนื่องจากดีมานด์เคมีภัณฑ์ พร้อมตั้งเป้าลงทุนต่อเนื่องในโครงการคอร์ปัส คริสตี (Corpus Christi) ซึ่งจะกลายเป็นโรงงาน PTA-PET ที่ใหญ่ที่สุด และทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ ไอวีแอล ผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลก เปิดเผยว่า“ไอวีแอลมีความเหมาะสมอย่างมากในสภาพแวดล้อมการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันด้วยการดำเนินงานกระจายตัวใน 30 ประเทศทั่วโลก รองรับตลาดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ และยังคงสามารถดำเนินธุรกิจอย่าง มีเสถียรภาพ มีภูมิคุ้มกันแม้ในสภาวะที่การค้าระหว่างประเทศมีความผันผวน เราอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะได้รับประโยชน์จากการขยายตัวของกำไรและปริมาณการผลิตในปี 2561 และ 2562 เนื่องจากเอกลักษณ์ในการดำเนินธุรกิจและสินทรัพย์ที่ครอบคลุม ทั่วโลกตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า”

นอกจากนี้ ไอวีแอลได้มีการเดินหน้าเข้าซื้อกิจการที่เกี่ยวเนื่องเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด บริษัทฯ ได้เข้าซื้อกิจการในประเทศบราซิลและอียิปต์ ทำให้ไอวีแอลมีกำลังการผลิต PET เพิ่มขึ้นจำนวน 1.1 ล้านตัน / การเข้าซื้อกิจการในเมืองร็อตเตอร์ดัม ประเทศโปรตุเกส ทำให้กำลังการผลิตของโรงงาน PTA เพิ่มขึ้นจำนวน 1.1 ล้านตัน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เพิ่มความแข็งแกร่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ HVA จากการเข้าซื้อกิจการบริษัท Kordarna ในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ และบริษัท Avgol ในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัย ซึ่งจะส่งผลต่อกำไรในปี 2562

สำหรับทิศทางอุตสาหกรรมในปี 2562 นั้น ไอวีแอลคาดว่า ภาพรวมเศรษฐกิจยังส่งผลบวกอย่างต่อเนื่องจากปัจจัยความต้องการเคมีภัณฑ์ รวมถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจในหลายประเทศที่ยังเติบโตได้ดี อีกทั้งโครงการลงทุนคอร์ปัส คริสตี (Corpus Christi) ซึ่งเป็นกิจการร่วมทุนในสหรัฐฯ คาดว่าจะเริ่มการผลิตได้ภายในปี 2563 ซึ่งมั่นใจว่า เมื่อขั้นตอนต่างๆ แล้วเสร็จ โรงงานแห่งนี้จะเป็นโรงงาน PTA-PET ที่ใหญ่ที่สุด และทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทั้งนี้ ไอวีแอลยังเชื่อมั่นในการคาดการณ์จากช่วงกลางปีที่ผ่านมาว่า บริษัทฯ จะมีกำไรหลักรวมก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (core EBITDA) อยู่ที่ 1.75 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2562 หรือเพิ่มขึ้น 74% จากปี 2560

นอกเหนือจากความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำในกลุ่มบริษัทเคมีภัณฑ์ระดับโลกแล้ว ไอวีแอลยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยไอวีแอลได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Index) เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงเจตจำนงค์ของไอวีแอลที่ยึดมั่นในการเป็นพลเมืองที่ดี และตอบสนองต่อประเด็นทางสังคม เนื่องจากธุรกิจหลัก ของไอวีแอล คือ การผลิตเม็ดพลาสติก PET ที่สามารถรีไซเคิลได้ บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าการลดปริมาณของเสียประเภทพลาสติก PET ที่ถูกส่งไปยังหลุมฝังกลบเพื่อกำจัดและส่งเสริมการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่าผ่านการริเริ่มการรีไซเคิลและการนำของเสียไปผ่านกระบวนการ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนตามกรอบสหประชาชาติ (The UN Sustainable Development Goals) เพื่อส่งเสริมการใช้ทรัพยากรและการผลิตอย่างยั่งยืน (SDG 12) ผ่านโครงการรับผิดชอบทางสังคมของไอวีแอลต่างๆ อาทิ โครงการ RECO Young Designer Competition และโครงการทางสังคมอื่นๆ ซึ่งเป็นโครงการด้านการดูแลสิ่งแวดล้อมและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนที่กลุ่มบริษัทดำเนินการต่อเนื่องเพื่อสร้างความสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมกับสังคมและผู้ที่เกี่ยวข้อง กลุ่มบริษัท จะเดินหน้าสร้างความตระหนักรู้ในการใช้เม็ดพลาสติก PET รีไซเคิล (rPET) และเส้นใยโพลีเอสเตอร์รีไซเคิลให้มีประสิทธิภาพสูงสุดผ่านการกิจกรรมร่วมกับสังคมและภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องต่อไป